แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ก. ออกเช็คสั่งให้ธนาคารโจทก์ร่วมจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือ จำเลยนำเช็คไปเรียกเก็บเงินตามวิธีการของธนาคารในขณะที่จำเลยเป็นผู้ถือเช็คดังกล่าว จำเลยจึงเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองในฐานเป็นผู้รับเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 904 ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คได้ เมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยนำเช็คฝากเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารของจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงิน ธนาคารโจทก์ร่วมจำต้องใช้เงินตามเช็คซึ่ง ก. ผู้เคยค้ากับธนาคารโจทก์ร่วมให้แก่จำเลย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าไม่มีเงินในบัญชีของ ก. เป็นเจ้าหนี้พอจะจ่ายตามเช็คนั้น กรณีจึงต้องด้วยข้อยกเว้นตาม (1) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 991 ซึ่งให้สิทธิแก่ธนาคารโจทก์ร่วมที่จะไม่จ่ายเงินตามเช็คได้โดยไม่ต้องรับผิดต่อผู้เคยค้าหรือผู้สั่งจ่าย หรือธนาคารโจทก์ร่วมจะจ่ายเงินตามเช็คนั้นก็ได้ ซึ่งครั้งแรกธนาคารโจทก์ร่วมใช้สิทธิปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย แม้ต่อมาโจทก์ร่วมจะดำเนินการทางบัญชีผิดพลาดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อจากพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วม โดยธนาคารโจทก์ร่วมได้จ่ายเงินไปตามที่ ก. ออกเช็คสั่งจ่ายมา ถือว่าธนาคารโจทก์ร่วมใช้ดุลพินิจจ่ายเงินตามเช็คแล้วภายหลังจะอ้างว่าสั่งจ่ายโดยไม่มีเงินในบัญชีของ ก. พอที่จะจ่ายตามเช็คนั้น เพื่อนำมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดว่าเป็นการจ่ายเงินตามเช็คโอนเข้าบัญชีของจำเลยผู้ทรงเช็คโดยสุจริตโดยสำคัญผิดหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 500,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ให้จำเลยคืนเงิน 500,000 บาท แก่โจทก์ร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน แต่ให้โจทก์ร่วมคืนเช็คพิพาทและใบคืนเช็คพิพาทให้แก่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นที่ยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาโต้แย้งว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยนำเช็คธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ เลขที่ 0135526 จำนวนเงิน 500,000 บาท ที่นายโกมลเป็นผู้สั่งจ่าย ไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ของจำเลยเลขที่ 001 – 834191 – 200 เพื่อให้เรียกเก็บเงินจากธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ นางสาวสุนันทา ผู้จัดการธนาคารโจทก์ร่วมสาขาสนามบินน้ำ อนุมัติให้มีการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวทั้งที่ไม่มีเงินในบัญชีของนายโกมลผู้สั่งจ่าย โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ของจำเลยเลขที่ 001 – 834191 – 200 ต่อมาสำนักงานใหญ่ของธนาคารโจทก์ร่วมตรวจสอบพบว่าการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวผิดพลาดเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชีของนายโกมล จึงแจ้งให้นางสาวสุนันทาทราบ นางสาวสุนันทาจึงติดต่อธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขอคืนเช็คนอกรอบ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ติดต่อสอบถามจำเลยแล้วแจ้งให้นางสาวสุนันทาทราบว่าจำเลยไม่ยินยอมคืนเงิน นางสาวสุนันทาจึงติดต่อกับจำเลยเพื่อขอให้คืนเงิน 500,000 บาท แต่จำเลยไม่ยินยอม
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องคืนเงิน 500,000 บาท ตามเช็คที่นำไปเรียกเก็บให้แก่ธนาคารโจทก์ร่วมหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย การที่จะวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในส่วนอาญายุติแล้วว่า นายโกมลผู้สั่งจ่ายเช็คได้เปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันไว้กับธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ และนายโกมลได้ออกเช็คลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 สั่งให้ธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ จ่ายเงิน 500,000 บาท ให้แก่ผู้ถือ จำเลยนำเช็คไปเรียกเก็บเงินตามวิธีการของธนาคารในขณะที่จำเลยเป็นผู้ถือเช็คดังกล่าว จำเลยจึงเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองในฐานเป็นผู้รับเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คได้ เมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยนำเช็คฝากเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ของจำเลยเลขที่ 001 – 834191 – 200 เพื่อเรียกเก็บเงิน ธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ จำต้องใช้เงินตามเช็ค ซึ่งนายโกมลผู้เคยค้ากับธนาคารโจทก์ร่วม สาขาสนามบินน้ำ ให้แก่จำเลย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าไม่มีเงินในบัญชีของนายโกมลเป็นเจ้าหนี้พอจะจ่ายตามเช็คนั้น กรณีจึงต้องด้วยข้อยกเว้น ตาม (1) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 ซึ่งให้สิทธิแก่ธนาคารโจทก์ร่วมที่จะไม่จ่ายเงินตามเช็คได้โดยไม่ต้องรับผิดต่อผู้เคยค้าหรือผู้สั่งจ่าย หรือธนาคารโจทก์ร่วมจะจ่ายเงินตามเช็คนั้นก็ได้ ซึ่งครั้งแรกธนาคารโจทก์ร่วมใช้สิทธิปฏิเสธจ่ายเงินตามเช็ค โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย แม้ต่อมาโจทก์ร่วมจะดำเนินการทางบัญชีผิดพลาดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อจากพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วม โดยธนาคารโจทก์ร่วมได้จ่ายเงินไปตามที่นายโกมลออกเช็คสั่งจ่ายมา ถือว่าธนาคารโจทก์ร่วมใช้ดุลพินิจจ่ายเงินตามเช็คแล้วภายหลังจะอ้างว่าสั่งจ่ายโดยไม่มีเงินในบัญชีของนายโกมลพอที่จะจ่ายตามเช็คนั้น เพื่อนำมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดว่าเป็นการจ่ายเงินตามเช็คโอนเข้าบัญชีของจำเลยผู้ทรงเช็คโดยสุจริตไปโดยสำคัญผิดหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 500,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่โจทก์ร่วม และให้โจทก์ร่วมคืนเช็คพิพาทพร้อมกับใบคืนเช็คให้แก่จำเลยนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 500,000 บาท แก่โจทก์ร่วม และยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่สั่งให้โจทก์ร่วมคืนเช็คพิพาทพร้อมใบคืนเช็คพิพาทให้แก่จำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1