คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการวินิจฉัยฎีกาของจำเลยว่า การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลฎีกาต้องย้อนไปวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ 1 และผู้เสียหายที่ 2 มีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งอยู่ร่วมในการสอบสวนด้วยเป็นผู้ตอบคำถามพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์แทนผู้เสียหายที่ 1 ดังฎีกาของจำเลยหรือไม่ ฎีกาของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังมาเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้าง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยรวม 8 ปี 12 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกและอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครสวรรค์ มีกำหนด 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 277, 279, 283 ทวิ, 317
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก, 279 วรรคแรก, 283 ทวิ วรรคสอง, 317 วรรคสาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุ 16 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าไป ซึ่งมิใช่ภริยาของตน ฐานกระทำอนาจารแก่เด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปี และฐานพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจารเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีอัตราโทษหนักที่สุดเพียงฐานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 4 ปี ฐานพรากเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร จำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 4 ปี 12 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 8 ปี 12 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดลพบุรีแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดโดยมีสาเหตุจากความเยาว์วัย ใช้ชีวิตอย่างอิสระขาดการควบคุมดูแล ทั้งยังไม่สำนึกในการกระทำของตน หากได้รับการอบรม ขัดเกลานิสัยและความประพฤติน่าจะเป็นผลดีแก่จำเลยยิ่งกว่าการรับโทษจำคุก จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 104 (2) ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกและอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครสวรรค์มีกำหนด 2 ปี นับแต่วันควบคุม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่า การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากข้อความในบันทึกคำให้การของผู้เสียหายที่ 2 และข้อความในบันทึกคำให้การของผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งทำขึ้นภายหลังมีข้อความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งอยู่ร่วมในการสอบสวนด้วยเป็นผู้ตอบคำถามพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์แทนผู้เสียหายที่ 1 นั้น เห็นว่า ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกาต้องย้อนไปวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ 1 และผู้เสียหายที่ 2 เป็นดังที่จำเลยโต้แย้งหรือไม่ อันเป็นการฎีกาเกี่ยวกับการชั่งน้ำหนักและความน่าเชื่อถือในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมา เมื่อคดีของจำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาข้อนี้มาจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ส่วนฎีกาปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยที่ว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและองค์คณะในการทำคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไม่ชอบนั้น เห็นว่า เป็นฎีกาที่เมื่อพิจารณาฎีกาทั้งฉบับแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงผลตามคำวินิจฉัยของศาลล่าง ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 219 วรรสอง และพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง
อนึ่ง คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนโทษจำคุกจำเลยเป็นส่งจำเลยไปฝึกอบรมมีกำหนดระยะเวลา 2 ปี เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าปัจจุบันจำเลยอายุ 22 ปีเศษแล้ว จึงเห็นควรกำหนดระยะเวลาในการฝึกอบรมใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ฝึกอบรมจำเลยไม่เกินกว่าจำเลยอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share