แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทางพิจารณาได้ความว่า เหตุคดีนี้เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2542 ไม่ใช่ในระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2541 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2541 ตามฟ้องโจทก์ จำเลยนำสืบต่อสู้ฟังได้ว่า ในช่วงเกิดเหตุตามฟ้องจำเลยรับราชการเป็นทหารกองประจำการอยู่ที่โรงเรียนการบิน อำเภอกำแพงแสน จำเลยไม่ได้ลาออกไปข้างนอก โจทก์ฟ้องผิดวันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แม้ว่าข้อแตกต่างนี้จะเป็นเพียงรายละเอียด แต่การฟ้องผิดวันไปเป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ จึงต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 277
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 จำคุกตลอดชีวิต คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 หรือไม่ โจทก์มีผู้เสียหายเป็นพยานเบิกความว่า บิดามารดาผู้เสียหายประกอบอาชีพขายขนมบัวลอยบริเวณโรงเจหลังวัดพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ในช่วงดังกล่าวผู้เสียหายไม่ได้เรียนหนังสือโดยช่วยบิดามารดาขายของ ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2541 ซึ่งเป็นช่วงแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เวลาประมาณ 21 นาฬิกา นายแอ๋งซึ่งผู้เสียหายรู้จักมาก่อนเข้ามารับประทานขนมบัวลอยกับเพื่อน ต่อมานายแอ๋งชวนผู้เสียหายไปนั่งรถจักรยานยนต์เล่นบริเวณสนามจันทร์ผู้เสียหายตกลงไปด้วย เมื่อไปถึงสนามจันทร์ผู้เสียหายพบจำเลยกับพวกอีกประมาณ 4 คน ขับรถจักรยานยนต์รวม 2 คัน ผู้เสียหายไม่เคยเห็นจำเลยกับพวกมาก่อนยกเว้นนายบู้ ต่อมาจำเลยได้ฉุดผู้เสียหายขึ้นรถจักรยานยนต์พาไปข่มขืนกระทำชำเราที่ห้องหมายเลข 4 โรงแรมซันย่า เมื่อจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่แล้ว พวกของจำเลยมีนายนคร นายบู้ และนายเตี้ยได้ข่มขืนกระทำชำเรา ต่อจนสำเร็จความใคร่ทุกคนโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม วันรุ่งขึ้นผู้เสียหายออกไปขายขนมบัวลอยตามปกติร่วมกับบิดามารดาผู้เสียหาย จำเลย นายนครกับพวกขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านได้เร่งเครื่องรวมทั้งเยาะเย้ยผู้เสียหาย 2 ถึง 3 วันหลังจากนั้นประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์ ผู้เสียหายรู้สึกปวดท้องและเจ็บอวัยวะเพศจึงเล่าเรื่องให้มารดาฟัง มารดาผู้เสียหายพาไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจเจ้าพนักงานตำรวจให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เจ้าพนักงานตำรวจให้ผู้เสียหายไปชี้ที่เกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำแผนที่เกิดเหตุไว้ปรากฏตามแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ เห็นว่าแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุดังกล่าว ทำเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2542 นายแพทย์วศิน แพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ได้ตรวจร่างกายผู้เสียหาย ในวันที่ 7 มกราคม 2542 นางนัยนามารดาผู้เสียหายเบิกความว่า ประมาณเดือนธันวาคม 2541 ช่วงแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เวลาประมาณ 21 นาฬิกา พยานไม่พบผู้เสียหายทั้ง ๆ ที่วันดังกล่าวผู้เสียหายก็อยู่ช่วยพยานขายขนมบัวลอย จนกระทั่งเวลา 24 นาฬิกา พยานเลิกขายของกลับบ้านแล้ว ผู้เสียหายจึงกลับไปพบพยาน พยานสอบถามผู้เสียหายว่าไปไหนมา ผู้เสียหายบอกว่าไปกับเพื่อน แต่พยานไม่เชื่อจึงสอบถามผู้เสียหาย ต่อมาอีกประมาณ 2 ถึง 3 วัน ผู้เสียหายจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวพยานจึงได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐม เจ้าพนักงานตำรวจให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม วันที่ผู้เสียหายกับมารดาไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนคือวันที่ 7 มกราคม 2542 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่พนักงานสอบสวนส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้ความจากคำเบิกความของนายแพทย์วศินว่า พยานได้ตรวจร่างกายผู้เสียหายโดยนำน้ำจากช่องคลอดส่งห้องปฏิบัติการเคมีเพื่อตรวจหาสารแอซิดฟอสฟาเทสปรากฏว่าเป็นผลบวก ซึ่งแสดงว่ามีการร่วมเพศไม่เกิน 3 วันผ่านมา และผู้เสียหายยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไม่เคยร่วมประเวณีกับใครมาก่อน หลังจากเกิดเหตุแล้วจนถึงวันที่ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายผู้เสียหายไม่ได้ร่วมประเวณีกับใคร เหตุคดีนี้จึงเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2542 ไม่ใช่ในระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2541 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2541 ตามฟ้องโจทก์ จำเลยนำสืบต่อสู้ว่าในช่วงเกิดเหตุตามฟ้องจำเลยรับราชการเป็นทหารกองประจำการอยู่ที่โรงเรียนการบิน อำเภอกำแพงแสน จำเลยไม่ได้ลาออกไปข้างนอก โดยมีเรืออากาศเอกนิรันดร์นายทหารประจำโรงเรียนการบิน กองบัญชาการยุทธทางอากาศ อำเภอกำแพงแสน มาเบิกความสนับสนุนและส่งเอกสารสำเนาบัญชีคุมการจำหน่ายเวลาปฏิบัติราชการของจำเลยเป็นพยานด้วยโจทก์ฟ้องผิดวันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แม้ว่าข้อแตกต่างนี้จะเป็นเพียงรายละเอียดแต่การที่ฟ้องผิดวันไปเป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ จึงต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง