คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8328/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

สัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นสัญญาอีกอย่างหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้ไว้แก่โจทก์ ความรับผิดของจำเลยทั้งสามในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องปฏิบัติตามวิธีการที่ ป.พ.พ. มาตรา 985 ประกอบมาตรา 941 บังคับให้ผู้ทรงต้องนำตั๋วสัญญาใช้เงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินในวันถึงกำหนด
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของผู้ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงิน ไม่มีผลกระทบต่อความรับผิดของจำเลยทั้งสาม ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 90/60 วรรคสอง การที่โจทก์ไม่นำหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ไม่ทำให้หนี้ดังกล่าวระงับ จึงไม่ทำให้จำเลยทั้งสามหลุดพ้นจากความรับผิดของสัญญาค้ำประกัน กรณีไม่อาจปรับบทตาม ป.พ.พ. มาตรา 697

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทปัจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกกับโจทก์ โดยออกตั๋วสัญญาใช้เงินเลขที่ พีเค-พีพีไอ 98001 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2541 จำนวนเงิน 30,880,000 บาท กำหนดใช้เงินภายในวันที่ 21 สิงหาคม 2541 มีจำเลยทั้งสามเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกถึงกำหนดบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ไม่ชำระหนี้ โจทก์ทวงถามให้บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ชำระหนี้แล้ว แต่บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ไม่ยอมชำระ โจทก์จึงได้มีหนังสือทวงถามถึงจำเลยทั้งสามในฐานะผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ครบกำหนดแล้วจำเลยทั้งสามไม่ยอมชำระขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 38,700,042.70 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14.5 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน 30,880,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่ได้บรรยายโดยแจ้งชัดว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามรับผิดในหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินหรือให้รับผิดในหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน และมิได้บรรยายว่า โจทก์มีฐานะอะไร จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยทั้งสามได้เกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้องถึงกำหนด โจทก์ไม่ได้นำตั๋วไปยื่นต่อบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 985 ประกอบกับมาตรา 941 บัญญัติไว้บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ยังไม่ได้ผิดนัดผิดสัญญาต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสามให้รับผิดในหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยทั้งสามหลุดพ้นจากความรับผิดตามหนังสือค้ำประกันแล้ว เพราะโจทก์ไม่นำหนี้ในคดีนี้ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 8/2542 ของศาลล้มละลายกลาง ระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ที่ 2 ผู้ร้อง บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ลูกหนี้ โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/61 เป็นเหตุให้จำเลยทั้งสามไม่อาจเข้ารับช่วงสิทธิแทนโจทก์ทั้งหมดได้ จำเลยทั้งสามจึงหลุดพ้นจากความรับผิดในหนี้ที่โจทก์ฟ้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 697 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินให้โจทก์จำนวน 38,700,042.70 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 30,880,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 22 มีนาคม 2543) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติได้ในเบื้องต้นว่า บริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกไว้ต่อโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.6 และออกตั๋วสัญญาใช้เงินเลขที่ พีเค-พีพีไอ 98001 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2541 สัญญาจะใช้เงินจำนวน 30,880,000 บาท แก่โจทก์ในวันที่ 21 สิงหาคม 2541 ตามตั๋วสัญญาใช้เงินเอกสารหมาย จ.7 โดยมีจำเลยทั้งสามเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตามหนังสือค้ำประกันเอกสารหมาย จ.8 ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2542 ตามสำเนาคำสั่งคดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 8/2542 เอกสารหมาย ล.1 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ตามสำเนาคำสั่งเอกสารหมาย ล.2 และโจทก์ไม่ได้นำหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินตามเอกสารหมาย จ.6 ในคดีนี้ไปขอรับชำระหนี้ในคดีดังกล่าว
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสามมีว่า โจทก์มิได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินพิพาทไปยื่นต่อบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ออกตั๋วเมื่อตั๋วนั้นถึงกำหนด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ตามหนังสือค้ำประกันเอกสารหมาย จ.8 มีข้อความว่า จำเลยทั้งสามผู้ค้ำประกันขอทำหลักฐานเป็นหนังสือฉบับนี้ให้ไว้แก่โจทก์ว่าจำเลยทั้งสามยอมผูกพันตนเข้าค้ำประกันบริษัทปัญพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกตามสัญญาลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2541 เห็นได้ว่า สัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกตามเอกสารหมาย จ.6 ที่จำเลยทั้งสามเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตามหนังสือค้ำประกันเอกสารหมาย จ.8 เป็นสัญญาอีกอย่างหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงินเอกสารหมาย จ.7 ที่บริษัทปัญพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ออกให้ไว้แก่โจทก์ ความรับผิดของจำเลยทั้งสามในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกดังกล่าว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องปฏิบัติตามวิธีการที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 985 ประกอบมาตรา 941 บังคับให้ผู้ทรงต้องนำตั๋วสัญญาใช้เงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินในวันถึงกำหนด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้มีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ตามสัญญาแต่จำเลยทั้งสามไม่ชำระ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสามให้ชำระเงินตามฟ้องได้ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
ปัญหาประการสุดท้ายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสามมีว่าการที่โจทก์ไม่นำหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยทั้งสามจะต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันในคดีนี้ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 8/2542 ของศาลล้มละลายกลาง มีผลให้จำเลยทั้งสามหลุดพ้นจากความรับผิดไม่ นั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/60 วรรคสอง คำสั่งเห็นชอบ ด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความรับผิดของบุคคลซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับลูกหนี้หรือผู้รับผิดร่วมกับลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน ดังนั้น การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกไว้ต่อโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.6 แม้ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทดังกล่าวตามสำเนาคำสั่งเอกสารหมาย ล.1 ก็ไม่มีผลกระทบต่อความรับผิดของจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันตามหนังสือค้ำประกันหมาย จ.8 การที่โจทก์ไม่นำหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งสินค้าออกตามเอกสารหมาย จ.6 ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 8/2542 ของศาลล้มละลายกลาง ไม่ทำให้หนี้ระงับ เมื่อหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการส่งออกยังไม่ระงับ จึงไม่ทำให้จำเลยทั้งสามหลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าว กรณีนี้ไม่อาจปรับบทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 697 ดังที่จำเลยทั้งสามฎีกา ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share