แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้องที่อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอออกหมายเรียก โดยเห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1), (2) และผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ต้องห้ามมิให้ฎีกา
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอและแก้ไขคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2959 ตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เฉพาะส่วนด้านทิศตะวันตกเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 2 งาน โดยการครอบครองปรปักษ์ ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องขอ
ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกนางจันทราพยานผู้คัดค้านมาสอบถามถึงความเกี่ยวพันกับผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ทนายผู้ร้องถามค้านพยานแล้ว จึงให้ยกคำขอออกหมายเรียก และมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง และอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอออกหมายเรียก
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ฉบับแรก ส่วนอุทธรณ์คำสั่งที่ให้ยกคำขอออกหมายเรียกศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ไม่รับอุทธรณ์
ผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขอออกหมายเรียกเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ผู้ร้องไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (2) ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องชอบแล้ว ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้องโดยเห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1), (2) และศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของผู้ร้องเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของผู้ร้อง