คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2548

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานนัดต่อมาเพราะสำคัญผิดเนื่องจากจำวันนัดผิด เป็นเรื่องความบกพร่องหรือประมาทเลินเล่ออันเป็นความผิดพลาดของทนายโจทก์เองที่จำวันนัดคลาดเคลื่อน ถือไม่ได้ว่ามีเหตุผลสมควรเพียงพอที่จะอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353, 354, 83, 90 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353, 354, 83 ให้ประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้พิจารณา ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2545 จนกระทั่งวันที่ 29 กรกฎาคม 2545 ซึ่งก่อนหน้านั้นโจทก์นำพยานเข้าสืบมาแล้วทั้งหมดรวม 4 ปาก ทนายโจทก์แถลงว่าพยานโจทก์ 1 ปาก ได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ต่อในวันที่ 28 สิงหาคม 2545 เวลา 13.30 นาฬิกา ครั้นถึงวันนัดดังกล่าว จำเลยที่ 2 ที่ 3 และทนายจำเลยที่ 2 ที่ 3 มาศาล แต่ฝ่ายโจทก์ไม่มีผู้ใดมาศาล ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ประกอบมาตรา 181
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้ออ้างของโจทก์ไม่มีเหตุสมควร มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ แล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามรูปคดี
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ชอบแล้วหรือไม่ ที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกาว่า การที่โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยอ้างว่าจำวันนัดผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ อย่างไม่มีเหตุผล เพราะทนายโจทก์เป็นผู้ขอกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ด้วยตนเองก่อนแล้วจึงแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบ พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าทนายโจทก์ไม่ได้เอาใจใส่ในคดีของตน กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 บัญญัติเป็นใจความว่า กรณีที่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด ถ้าโจทก์มาร้องภายใน 15 วัน นับแต่วันศาลยกฟ้อง โดยแสดงให้ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควรจึงมาไม่ได้ ก็ให้ศาลยกคดีนั้นขึ้นพิจารณาใหม่ สำหรับคดีนี้โจทก์อ้างว่าทนายโจทก์จำวันนัดผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปโดยสำคัญผิดและเชื่อโดยสุจริตว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 2 กันยายน 2545 จึงไม่ได้มาศาลในวันที่ 28 สิงหาคม 2545 อันเป็นวันนัด เห็นว่า ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2545 ว่า ทนายโจทก์ได้ลงลายมือชื่อรับทราบวันนัดไว้โดยชอบแล้ว อีกทั้งยังไม่ปรากฏว่าทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องแจ้งเหตุดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นในวันที่ 2 กันยายน 2545 อันเป็นวันที่ทนายโจทก์มาศาลด้วยความสำคัญผิดในวันกำหนดนัด แต่ทนายโจทก์เพิ่งจะยื่นคำร้องขอคัดเอกสารต่าง ๆ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2545 โดยอ้างเหตุว่าเพราะศาลยกฟ้องโจทก์แล้ว และยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2545 พฤติการณ์แห่งคดีตามข้ออ้างของโจทก์จึงไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า การที่โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเป็นเพราะสำคัญผิดเนื่องจากจำวันนัดผิด ก็เป็นเรื่องความบกพร่องหรือประมาทเลินเล่ออันเป็นความผิดพลาดของทนายโจทก์เองที่จำวันนัดคลาดเคลื่อน กรณียังถือไม่ได้ว่ามีเหตุสมควรเพียงพอที่จะอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 ที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง.

Share