แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๐ เวลากลางคืน  จำเลยเอาปืนลอบยิงนายจำรัสตาย  ที่ตำบลโคกช้าง  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙-๒๕๐ ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดดังข้อหา  แลต่อสู้ว่าในวันเกิดเหตุ  เวลาพลบค่ำจำเลยลงเรือไปแห่ผ้าป่าตามลำแม่น้ำ ตำบลโคกช้าง  จำเลยได้ร้องเพลงแก้กับนายกลมอยู่จนเวลา ๑๐ นาฬิกาหลังเที่ยง  ได้ยินเสียงปืนดัง ๒ นัดทางทิศใต้ แต่จำเลยไม่ทราบว่าใครเปนคนยิง  และผู้ใดเปนผู้ถูกกระสุนปืน ฯ
ทางพิจารณาได้ความว่า  ในเดือนพฤศจิกายน (ระหว่างเดือน ๑๒ ฤาเดือนอ้าย) เปนประเพณีของราษฎรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  มีงานแห่ผ้าป่าเวลาพลบค่ำ แลมีชายหญิงต่างลงเรือไปในการนั้นร้องเพลงแก้กันเปนการรื่นเริง  ก่องเกิดเหตุนี้ ๓ วัน มาแล้วจำเลยลงเรือไปเที่ยวแห่ผ้าป่าและได้ร้องเพลงแก้กับนางแจ๋วที่มาเรืออีกลำหนึ่ง  ครั้นถึงวันเกิดเหตุเวลาพลบค่ำ นายจำรัสกับนายเจิม นายจ้อย นายชุ่ม นายซ่อน นายปลื้มลงเรือไปเที่ยวแห่ผ้าป่า  แลมาร้องเพลงแก้กันกับนางแจ๋ว  ต่างลอยเรือร้องเพลงล่องตามน้ำลงมาถึงตำบลโคกช้าง เวลา ๑๐ นาฬิกา หลังเที่ยงจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งมาเรือหมู เห็นนายจำรัสร้องเพลงแก้กันกับนางแจ๋ว  จำเลยก็พายเรือล่องไปตามน้ำสักครู่ ๑ จำเลยพายเรือทวนน้ำแซกขึ้นมาระหว่างเรือนายจำรัสกับเรือนางแจ๋วอีก  พอจำเลยพายเรือขึ้นไปพ้นท้ายเรือนายจำรัสแล้ว  กลับหันหัวเรือล่องตามเรือนายจำรัสมาอีก  พอมาใกล้เรือนายจำรัสสัก ๒ ศอก  จำเลยก็ยกปืนโกยิงนายจำรัส ๑ นัด นายจำรัสถูกกระสุนปืนแล้ว  จำเลยก็พายเรือหนีไปพ้นเรือนายจำรัสสัก ๔ วา ก็ยิงปืนขึ้นอีกนัด ๑  เพื่อจะไม่ให้ติดตามจับตัวจำเลย  แล้วจำเลยก็พายเรือหนีไป  นายเจิม นายจ้อย นายชุ่ม นายปลื้มพยานที่ลงเรือมาพร้อมกับนายจำรัสมาเปนพยานเบิกความว่า  ได้เห็นจำเลยเปนผู้เอาปืนยิงนายจำรัสโดยชัดเจน  นายจำรัสมีบาดแผลรอยถูกกระสุนปืนที่สันหลังข้างซ้าย กระดูกสันหลังแตกกระสุนปืนทลุภายใน  นายจำรัสขาดใจตายด้วยพิษบาดแผลนั้น  เหตุที่จำเลยกระทำร้ายนายจำรัสนั้นน่าสงสัยจะเปนด้วยความหึงหวงนางแจ๊วหญิงต้นบทร้องเพลง  นอกจากนี้หาได้ความว่าจำเลยมีสาเหตุกับนายจำรัสมาแต่ก่อนไม่ ฯ
ศาลจังหวัพระนครศรีอยุธยา  พร้อมด้วยอธิบดีศาลมณฑลอยุธยาพิพากษาว่า  จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต ฯ
จำเลยอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษายืนตามศาลเดิม ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านคำพยานโจทย์  ว่าไม่ควรฟังเปนความจริง ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับประราชทานตรวจสำนวนเรื่องนี้ตลอดแล้ว  เห็นด้วยเกล้า ฯ ว่าตามคำพยานโจทย์ไม่มีเหตุเคลือบแคลงสงสัย  ฟังเปนความจริงได้ว่าอ้ายเจ๊กจำเลยได้เอาปืนยิงนายจำรัสตายดังข้อหา  ศาลล่างพิพากษาต้องกันมาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา  ตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ ให้ลงพระราอาญาจำคุกอ้ายเจ๊กจำเลยตลอดชีวิตนั้น  ฎีกาของอ้ายเจ๊กจำเลยไม่มีเหตุจะแก้ไขคำพิพากษาศาลล่าง ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพิพากษายืนตามศาลล่างให้ยกฎีกาของอ้ายเจ๊กจำเลยเสีย ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายสำเนาคำพิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  แลศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษ  กับสำเนาฎีกาจำเลย  ทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ฯ
การจำควรประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
วันที่ ๑๖ สิงหาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓ แจ้งความมายัง พระยากฤติกานุกรณกิจ
ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๑๗/๒๔๖๓  ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ศกนี้  กราบบังคมทูลพระกรุณาเรื่องคดีอ้ายเจ๊กผู้ร้ายฆ่านายจำรัสตาย  ที่ตำบลโคกช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ซึ่งกรรมการศาลฎีกาพิพากษาต้องกับศาลล่างให้จำคุกอ้ายเจ๊กตลอดชีวิตนั้น  อนุญาตให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษา ฯ
ขอเดชะ

