คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยที่ 2 ตกลงรับจ้างขนส่งสินค้า จำเลยที่ 2 ย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องขนส่งสินค้าไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่งที่ท่าอากาศยานปลายทาง จำเลยที่ 2 ได้ออกใบตราส่งอันถือได้ว่าเป็นหลักฐานแห่งสัญญาขนส่งของให้แก่ผู้ส่งตามใบตราส่ง โดยระบุในใบตราส่งว่าผู้รับตราส่งคือธนาคารซิตี้แบงก์ มี ซ. เป็นผู้ที่จะต้องแจ้งให้ทราบ จำเลยที่ 2 จึงมีหน้าที่ขนส่งสินค้าไปส่งมอบให้แก่ ซ. ที่ท่าอากาศยานเมืองไมอามีซึ่งเป็นท่าอากาศยานปลายทาง โดยการเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งซึ่งธนาคารซิตี้แบงก์ได้สลักหลังให้ เมื่อสินค้าถึงท่าอากาศยานเมืองไมอามี ตัวแทนของจำเลยที่ 2 กลับปล่อยสินค้าให้แก่บุคคลอื่นโดยมิได้มีการเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศ ถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งมอบสินค้าโดยชอบ
เอกสารที่โจทก์อ้างแม้จะเป็นสำเนาเอกสาร แต่ก็เป็นเอกสารที่ผู้ส่งได้ส่งให้แก่โจทก์โดยวิธีโทรสารซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ตามปกติผู้ส่งจะนำต้นฉบับเอกสารไปลงในเครื่องโทรสารแล้วส่งโดยวิธีโทรสารไปยังเครื่องโทรสารของผู้รับ และผู้ส่งเป็นผู้เก็บต้นฉบับไว้ ทั้งเมื่อจำเลยที่ 2 ถูกโจทก์อ้างสำเนาเอกสารดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานยันตนก็มิได้คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับหรือต้นฉบับปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับก่อนการสืบพยานเอกสารนั้นแล้วเสร็จ และไม่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตคัดค้านต่อศาลในภายหลัง จำเลยที่ 2 เพียงแต่โต้แย้งคัดค้านไว้ในบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงและความเห็นของพยานจำเลยที่ 2 กับยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ภายหลังการสืบพยานเอกสารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น จำเลยที่ 2 จึงต้องห้ามมิให้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสารหรือความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้น ทั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางก็ได้วินิจฉัยรับฟังตามสำเนาเอกสารดังกล่าว ถือได้ว่าศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบในกรณีไม่สามารถนำต้นฉบับเอกสารมาได้โดยประการอื่น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93 (2) แล้ว สำเนาเอกสารดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
สินค้าที่ขนส่งเป็นเพียงพรม ซึ่งเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินทองตรา ธนบัตร ธนาคารบัตร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า และอัญมณี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 620 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑,๘๕๘,๐๙๕.๖๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวน ๑,๗๘๒,๙๙๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงินจำนวน ๑,๗๘๒,๙๙๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน ๗๕,๑๐๕.๖๐ บาท และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวน ๑,๗๘๒,๙๙๐ บาท นับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๔๒) เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยที่ ๒ จะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ ๒ ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐,๐๐๐ บาท ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า บริษัทเฮริเทช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๒ ให้ขนส่งสินค้าพรมจากท่าอากาศยานกรุงเทพ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานเมืองไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อส่งมอบแก่ธนาคารซิตี้แบงก์ ผู้รับตราส่ง มีนายแซม ดาวิเดียน เป็นผู้ที่ต้องแจ้งให้ทราบ บริษัทดังกล่าวได้เอาประกันภัยสินค้าที่ขนส่งไว้แก่โจทก์ โดยมีเงื่อนไขว่าหากสินค้าไม่ถึงมือผู้รับตราส่ง เสียหายหรือสูญหายในระหว่างการขนส่ง โจทก์จะชดใช้ค่าเสียหายที่แท้จริง เมื่อสินค้าไปถึงท่าอากาศยานปลายทาง สายการบินไฟน์แอร์ตัวแทนของจำเลยที่ ๒ ได้ส่งมอบสินค้าให้แก่นายแซมมวล ดาวิไดแอนท์ส ต่อมาโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องและรับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยมาฟ้องจำเลยที่ ๒ และได้รับใบตราส่งทางอากาศชนิดแอร์ บิล (AIR BILL)
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ว่า จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด เห็นว่า เมื่อจำเลยที่ ๒ ได้ตกลงรับจ้างขนส่งสินค้ารายนี้แล้ว จำเลยที่ ๒ ย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องขนส่งสินค้าไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่งที่ท่าอากาศยานปลายทาง ข้อเท็จจริงได้ความว่า ในการรับจ้างขนส่งสินค้ารายนี้ จำเลยที่ ๒ ได้ออกใบตราส่งอันถือได้ว่าเป็นหลักฐานแห่งสัญญาขนส่งของให้แก่ผู้ส่งตามใบตราส่ง เอกสารหมาย จ. ๗ หรือ ล. ๔ โดยระบุไว้ในใบตราส่งว่าผู้รับตราส่งคือธนาคารซิตี้แบงก์ มีนายแซม ดาวิเดียน เป็นผู้ที่ต้องแจ้งให้ทราบ ทั้งตามคำให้การของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ก็ยอมรับว่าจำเลยที่ ๑ ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๒ ให้ขนส่งสินค้าไปส่งมอบให้แก่นายแซม ดาวิเดียน ซึ่งเป็นผู้ซื้อและผู้รับปลายทาง ดังนั้น จำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้ขนส่งจึงมีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าดังกล่าวไปส่งมอบให้แก่นายแซม ดาวิเดียน ผู้ซื้อสินค้าที่ท่าอากาศยานเมืองไมอามีซึ่งเป็นท่าอากาศยานปลายทาง โดยรับการเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศซึ่งธนาคารซิตี้แบงก์ผู้รับตราส่งได้สลักหลังให้ แต่กลับปรากฏว่าเมื่อจำเลยที่ ๒ ได้ขนส่งสินค้าไปถึงท่าอากาศยานเมืองไมอามีแล้ว สายการบินไฟน์แอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๒ ที่ท่าอากาศยานเมืองไมอามีได้ปล่อยสินค้าให้แก่นายแซมมวล ดาวิไดแอนท์ส ตามสำเนาหนังสือเอกสารหมาย จ. ๑๐ พร้อมสำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของนายแซมมวล ดาวิไดแอนท์ส เอกสารหมาย จ. ๑๑ ซึ่งเอกสารทั้งสองฉบับนี้เป็นเอกสารที่สายการบินไฟน์แอร์แจ้งและส่งไปให้ผู้ส่งทราบ ที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์อ้างว่า นายแซม ดาวิเดียน (SAM DAVIDIAN) กับนายแซมมวล ดาวิไดแอนท์ส (SAMUEL DAVIDYANTS) เป็นบุคคลคนเดียวกันนั้น เห็นได้ว่า ทั้งชื่อและนามสกุลของบุคคลทั้งสองแตกต่างกัน ทั้งจำเลยที่ ๒ ไม่มีพยานหลักฐานมาสืบแสดงว่าบุคคลทั้งสองเป็นบุคคลเดียวกันแต่ประการใด นอกจากนั้น ในการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้มาขอรับสินค้ายังเป็นการส่งมอบโดยมิได้มีการเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศ โดยเอกสารการรับสินค้ารวมทั้งใบตราส่งทางอากาศยังคงอยู่ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ตามสำเนาหนังสือของธนาคารดังกล่าวเอกสารหมาย จ. ๙ ข้อที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ว่า เอกสารหมาย จ. ๗ และ จ. ๙ ถึง จ. ๑๑ เป็นสำเนาเอกสาร มิใช่ต้นฉบับเอกสารที่แท้จริง จึงรับฟังไม่ได้นั้น เห็นว่า เอกสารหมาย จ. ๗ เป็นสำเนาใบตราส่งซึ่งมีข้อความถูกต้องตรงกับสำเนาใบตราส่งเอกสารหมาย ล. ๔ ที่จำเลยที่ ๒ อ้างส่งทุกประการ ส่วนเอกสารหมาย จ. ๙ ถึง จ. ๑๑ แม้จะเป็นสำเนาเอกสาร แต่ก็เป็นเอกสารที่ผู้ส่งเอกสารได้ส่งให้แก่โจทก์โดยวิธีโทรสาร ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าในการส่งโดยวิธีนี้ตามปกติผู้ส่งจะนำต้นฉบับเอกสารไปลงในเครื่องโทรสารแล้วส่งโดยวิธีโทรสารไปยังเครื่องโทรสารของผู้รับ และผู้ส่งเป็นผู้เก็บต้นฉบับไว้ ทั้งเมื่อจำเลยที่ ๒ ถูกโจทก์อ้างสำเนาเอกสารดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานยันตน จำเลยที่ ๒ ก็มิได้คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับหรือต้นฉบับปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับก่อนการสืบพยานเอกสารนั้นแล้วเสร็จ และไม่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตคัดค้านต่อศาลในภายหลังโดยจำเลยที่ ๒ เพียงแต่โต้แย้งคัดค้านไว้ในบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงและความเห็นของพยานจำเลยที่ ๒ กับยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ภายหลังการสืบพยานเอกสารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น จำเลยที่ ๒ จึงต้องห้ามมิให้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสารหรือความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้น ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๒๖ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๒๕ ทั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางก็ได้วินิจฉัยรับฟังตามสำเนาเอกสารดังกล่าวซึ่งถือได้ว่าศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบในกรณีไม่สามารถนำต้นฉบับเอกสารมาได้โดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๓ (๒) แล้ว สำเนาเอกสารดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ ๒ มิได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ธนาคารซิตี้แบงก์ ผู้รับตราส่ง หรือนายแซม ดาวิเดียน ผู้ซื้อสินค้าซึ่งได้เวนคืนต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศที่ได้รับการสลักหลังให้ การส่งมอบสินค้าแก่บุคคลอื่นโดยมิได้มีการเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศ ถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งมอบโดยชอบ ทำให้ผู้รับตราส่งหรือผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้า เป็นเหตุให้ผู้ขายหรือผู้ส่งสินค้าเสียหายไม่ได้รับชำระราคาสินค้าจากผู้รับตราส่งหรือผู้ซื้อ จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดในความเสียหายต่อผู้ส่ง เมื่อโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยสินค้าได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ส่งซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยไปแล้วตามกรมธรรม์ประกันภัย ย่อมรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อจำเลยที่ ๒ ได้ตามอำนาจแห่งกฎหมายโดยไม่จำต้องคำนึงว่าจำเลยที่ ๒ ได้ทราบถึงการประกันภัยดังที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์หรือไม่ จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ตามจำนวนเงินที่โจทก์ได้จ่ายไป
ส่วนที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือเกินพรมผืนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะพรมเป็นของมีค่าอย่างอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๒๐ นั้น เห็นว่า สินค้าที่ขนส่งเป็นเพียงพรม ซึ่งเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินทองตรา ธนบัตร ธนาคารบัตร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า และอัญมณี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๒๐ วรรคหนึ่ง ดังนั้น แม้ผู้ส่งจะไม่ได้แจ้งราคาสินค้าให้จำเลยที่ ๒ ทราบก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยที่ ๒ หลุดพ้นจากความรับผิด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๒๐,๐๐๐ บาท แทนโจทก์.

Share