คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3715/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์และจำเลยได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อศาลชั้นต้นไม่ฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำสั่งดังกล่าว ฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนไม่เป็นการถูกต้องนั้น แม้จะฟังได้ตามที่โจทก์ฎีกา แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์เสียแล้ว ก็ไม่อาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ใหม่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนขนย้ายเสาไฟฟ้า ราวตากผ้า พร้อมด้วยต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นของจำเลยไปจากที่ดินพิพาทและส่งมอบที่ดินดังกล่าวในสภาพที่เรียบร้อยคืนให้โจทก์
จำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายส่วนปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับ แต่คดีนี้เป็นคดีที่พิพาทกันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ และจำเลยได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำสั่งดังกล่าว ฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติ คงมีปัญหาขึ้นสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ ที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ดินพิพาทที่โจทก์ฟ้องเป็นที่ดินมีโฉนด แม้ที่ดินพิพาทโจทก์จำเลยยังโต้เถียงกันอยู่ว่าเป็นที่ดินที่รวมอยู่ในที่ดินมีโฉนดของโจทก์หรือไม่ โจทก์ก็ยังได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 หน้าที่นำสืบก่อน (ภาระการพิสูจน์) จึงตกแก่จำเลย ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนไม่เป็นการถูกต้องนั้น เห็นว่า ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกามานั้น แม้จะฟังได้ตามที่โจทก์ฎีกาแต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ก็ไม่อาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ใหม่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของโจทก์

Share