คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5087/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 เป็นภรรยาจำเลยที่ 1 ในวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองไปซักผ้าที่บ่อน้ำหน้าบ้านของโจทก์ร่วมด้วยกัน แต่จำเลยที่ 1แยกตัวไปก่อน แล้วจำเลยที่ 2 ได้เข้าไปชวน ส. มารดาของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่เฝ้าบ้านให้ออกไปเก็บใบพลู ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ให้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของโจทก์ร่วมได้โดยสะดวกและหลังจากมีเสียงสุนัขเห่าซึ่งแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้เข้าไปในบ้านของโจทก์ร่วมแล้ว ส. จะกลับ จำเลยที่ 2 ก็ได้ชวนคุยต่ออันถือได้ว่าเป็นการหน่วงเวลาไว้เพื่อให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1ซึ่งกำลังเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านโจทก์ร่วมกระทำผิดได้ต่อไป การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1ทั้งก่อนและขณะเข้าไปลักทรัพย์ของโจทก์ร่วม อันเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๓๓๕, ๓๕๗, ๘๓ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคือหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนรวม ๖๗,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
ระหว่างการพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕ วรรคแรก (ที่ถูกมาตรา ๓๓๕(๘) วรรคแรก) ให้ลงโทษจำคุก๒ ปี ส่วนจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕วรรรแก (ที่ถูกมมตรา ๓๓๕(๘) วรรคแรก) ประกอบมาตรา ๘๖ ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน ๖๗,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ร่วม และให้ยกฟ้องข้อหารับของโจร
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์และโจทก์ร่วมสำหรับจำเลยที่ ๒ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะจำเลยที่ ๑ เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของโจทก์ร่วมนั้น จำเลยที่ ๒ ได้อยู่ใกล้ชิดในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย จำเลยที่ ๒ เป็นภรรยาของจำเลยที่ ๑ และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านของนายสมพงษ์บิดาของจำเลยที่ ๒ ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๒ได้ไปซักผ้ากับจำเลยที่ ๑ ที่บ่อน้ำหน้าบ้านของโจทก์ร่วม แต่จำเลยที่ ๑ ได้แยกตัวไปก่อน เมื่อจำเลยที่ ๑ ลักทรัพย์ของโจทก์ร่วมได้แล้วก็ชวนจำเลยที่ ๒ ไปที่แพสุวรรณศิลป์ ครั้นต่อมาในวันรุ่งขึ้น เจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจค้นพบร้อยคอทองคำกับปืนและกระสุนปืนของโจทก์ร่วมที่ถูกลักซุกซ่อนอยู่ในบริเวณข้างบ้านของนายสมพงษ์ เชื่อได้ว่าจำเลยที่ ๒ ได้มีส่วนรู้เห็นกับการที่จำเลยที่ ๑ ได้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของโจทก์ร่วม การที่จำเลยที่ ๒ชวนนางสังวาลย์มารดของโจทก์ร่วมไปเก็บใบพลูก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ ๑ ให้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของโจทก์ร่วมได้โดยสะดวกและหลังจากมีเสียงสุนัขเห่าซึ่งแสดงว่าจำเลยที่ ๑ เข้าไปในบ้านของโจทก์ร่วมแล้ว นางสังวาลย์จะกลับไป จำเลยที่ ๒ ก็ได้ชวนคุยต่ออันถือได้ว่าเป็นการหน่วงเวลาไว้เพื่อให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ ๑ซึ่งกำลังเข้าไปทำการลักทรัพย์ในบ้านของโจทก์ร่วมกระทำความผิดได้ต่อไป การกระทำของจำเลยที่ ๒ จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ ๑ ทั้งก่อนและขณะเข้าไปลักทรัพย์ของโจทก์ร่วม จำเลยที่ ๒ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีสำหรับจำเลยที่ ๒ ไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share