คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5049/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยาน โจทก์นั้น กรณีไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นออกหมายเรียกจำเลยให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา และออกหมายแจ้งวันนัดให้โจทก์ทราบ ถ้าไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด เมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าว จำเลยและทนายจำเลยมาศาล ส่วนโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๖ ประกอบมาตรา ๑๘๑
โจทก์ยื่นคำร้องว่า พนักงานเดินหมายมิได้ส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ ให้โจทก์ทราบ ณ ภูมิลำเนาของโจทก์ตามฟ้อง การที่ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า โจทก์ยื่นคำร้องเกิน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๖ประกอบมาตรา ๑๘๑ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พนักงานเดินหมายได้ส่งหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่โจทก์โดยวิธีปิดหมาย ณ ภูมิลำเนาของโจทก์ตามคำสั่งศาลโดยถูกต้อง โจทก์จึงได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๗กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ โดยชอบแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องเมื่อพ้น ๑๕ วัน นับแต่วันที่ศาลยกฟ้องคดีนี้แล้วไม่ได้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๓๒ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ โดยอ้างว่าโจทก์มายื่นคำร้องขอคัดสำเนาหมายจับจำเลยและเพิ่งทราบคำสั่ง (ที่ถูกคือคำพิพากษา)ดังกล่าวของศาลชั้นต้นในวันนั้นเอง โจทก์ไม่ทราบมาก่อนว่า ศาลชั้นต้นกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกาคดีมีปัญหาว่า โจทก์ได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๗กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกาหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ส่งหมายยังเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งเป็นสาระสำคัญในอันที่จะวินิจฉัย ปัญหาที่ว่าโจทก์ได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา หรือไม่ ทั้งหากฟังว่าโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวแล้ว กรณีก็ไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๖วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๘๑ แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ โดยถือว่าโจทก์ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้ว และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยมิได้ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความเสียก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของโจทก์และไต่สวนคำร้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี.

Share