แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วันนัดสืบพยาน จำเลยซึ่งต้องนำพยานเข้าสืบเป็นลำดับสุดท้ายไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงถือว่าไม่มีพยานมาสืบ สั่งงดสืบพยานให้คดีเสร็จการพิจารณา รอฟังคำพิพากษาในวันเดียวกัน ถือได้ว่าจำเลยทราบคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้วในวันนั้น การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์พร้อมคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์หลังพ้นกำหนดเวลา โดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำพิพากษาเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาอุทธรณ์ไปแล้ว ถือเป็นความบกพร่องของจำเลยเอง ไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ส่วนที่อ้างว่าเมื่อทราบแล้วจึงไปติดต่อคัดสำนวนใช้เวลาร่วมเดือนเศษก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังพ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้ว จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ที่จะทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำร้อง ภายในกำหนดเวลาได้เช่นกัน ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนั้น ชอบแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสี่ผู้ร่วมขนส่งฐานส่งมอบสินค้าของโจทก์แก่บุคคลอื่นโดยประมาทให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งสี่ยื่นคำให้การต่อสู้คดี
ในวันนัดสืบพยานจำเลยที่สี่ 4 จำเลยที่ 4 ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานจำเลยที่ 4 และนัดฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์ภายในกำหนด 1 เดือน ส่วนจำเลยที่ 4 ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2541 พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า กรณีไม่มีเหตุสุดวิสัย ไม่อนุญาตให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ และสั่งในอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 ว่า จำเลยที่ 4 ยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว จึงไม่รับอุทธรณ์คืนค่าขึ้นศาลให้
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยรวมกันมาทั้งอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 4
และให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 4 (ที่ถูกพิพากษายืน ตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลา ยื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยที่ 4)
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
คดีนี้จำเลยที่ 4 ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2541 โดยอ้างเหตุในคำร้องว่า จำเลยที่ 4 เพิ่งทราบคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมื่อปลายเดือนมกราคม 2541 ซึ่งล่วงเลยเวลาที่จำเลยที่ 4 จะยื่นอุทธรณ์ได้ เห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่ 4 ที่ว่า เพิ่งทราบคำพิพากษาเมื่อพ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้ว ถือเป็นความบกพร่องของจำเลยที่ 4 เอง ไม่อาจถือว่าเป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยได้ ส่วนการที่จำเลยที่ 4 อ้างว่าเมื่อทราบคำพิพากษาแล้วได้ไปติดต่อขอคัดสำนวน กว่าจะคัดได้ก็ถึงเดือนมีนาคม 2541 ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังเมื่อพ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้ว จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยที่ 4 ไม่สามารถยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้ภายในวันที่ 19 มกราคม 2541 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 นั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 4 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.