คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยกับพวกใช้ปืนอาร์ก้าซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงและเป็นอาวุธสำหรับใช้แต่ในการสงคราม ยิงไปที่เจ้าพนักงานตำรวจขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยยิงหลายนัดในระยะห่างประมาณ 100 เมตรนั้น แสดงถึงเจตนาฆ่า เมื่อการกระทำนั้นไม่บรรลุผล เพราะกระสุนไม่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก ๒ คน ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงสิบตำรวจตรีมงคล ประเสริฐกลาง กับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและกำลังปฏิบัติการตามหน้าที่โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกสิบตำรวจตรีมงคลกับพวกสิบตำรวจตรีมงคลกับพวกจึงไม่ตาย และจำเลยกับพวกดังกล่าวร่วมกันมีปืนอาร์ก้า ๒ กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนกลและกระสุนปืนสำหรับใช้กับอาวุธปืนดังกล่าว ๕ นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามโดยฝ่าฝืนกฎหมายตำรวจจับจำเลยได้พร้อมกับอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๐, ๘๓, ๙๑ ประกาสของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง แต่สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๕ กฎกระทรวงฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๐๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ข้อ (๕) (๑๖) และสั่งริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๕ กฎกระทรวงฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๐๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ข้อ (๕) (๑๖) จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ริบของกลาง ยกฟ้องข้อหาพยามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๒), ๘, ๘๓ อีกกระทงหนึ่ง จำคุกตลอดชีวิต เปลี่ยนเป็นจำคุก ๕๐ ปี รวมกับโทษจำคุกในความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ๑ ปี ๖ เดือนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นจำคุก ๕๑ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อหาฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ส่วนข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้น ยุติตามคำพิพากษาศาลล่าง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นท่าเรือ จำเลยกับพวกมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย สิบตำรวจตรีมงคลได้ร้องตะโกนบอกว่าเป็นตำรวจขอเข้าทำการตรวจค้น จำเลยกับพวกไม่ยอมให้ตรวจค้น และใช้อาวุธปืนยิงมาทางสิบตำรวจตรีมงคลกับพวกในระยะห่างราว ๑๐๐ เมตร วินิจฉัยว่าการที่จำเลยกับพวกใช้ปืนอาร์ก้าซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรง เป็นอาวุธสำหรับใช้แต่ในการสงครามยิงไปที่เจ้าพนักงานตำรวจ และยิงหลายนัดในระยะห่างประมาณ ๑๐๐ เมตรนั้น แสดงถึงเจตนาฆ่า แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลเพราะกระสุนไม่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่แล้ว
พิพากษายืน

Share