คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวไว้ในฟ้องว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้ ส. เป็นผู้ฟ้องคดีนี้แทนตามใบมอบอำนาจท้ายฟ้อง จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้จึงถือว่าจำเลยยอมรับว่า ส. ได้รับมอบอำนาจที่ถูกต้องตามใบมอบอำนาจนั้นจริง ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้สงสัยว่าเป็นการมอบอำนาจที่ไม่ถูกต้อง คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ ส. ฟ้องคดีนี้จริง ไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบในข้อนี้ โจทก์จึงไม่ต้องส่งใบมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐานต่อศาลอีก ฉะนั้น แม้ใบมอบอำนาจนี้จะปิดอากรแสตมป์หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อการรับฟังข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้โต้แย้งว่า ส. มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านและที่ดินที่อาศัยซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปจากที่ดินของโจทก์แล้วแต่จำเลยเพิกเฉยทำให้โจทก์เสียหาย และขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย การฟ้องคดีนี้โจทก์มอบอำนาจให้นายสนุก เถียรทวี เป็นผู้ฟ้องแทนตามใบมอบอำนาจท้ายฟ้อง
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้อาศัยที่ดินและบ้านของโจทก์ หากแต่จำเลยกับนายสถาพรร่วมกันเช่าที่ดินจากโจทก์ ระยะเวลาเช่า ๑๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๗ ค่าเช่า พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้ชำระแล้ว แต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ส่วนเรือนที่ปลูกอยู่ในที่ดินนี้เป็นเรือนของจำเลยปลูกสร้างเอง ไม่ใช่ของโจทก์
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยเป็นบริวารของนาวสาวปิยะวรรณผู้เช่าที่พิพาทจากโจทก์และเลิกเช่าไปแล้ว ส่วนเรือนพิพาทฟังว่าเป็นของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง พิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทโดยให้โจทก์ชำระเงินค่าบ้านให้จำเลย เมื่อโจทก์ชำระแล้วห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินและบ้านพิพาทต่อไป และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับแต่วันโจทก์ชำระเงินจำเลยแล้วจนกว่าจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่ได้อยู่ในที่พิพาทโดยอาศัย แต่อยู่ในฐานะผู้เช่า บ้านก็เป็นของจำเลยทั้งหลัง โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของด้วย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายสนุก เถียรทวี ฟ้องคดีแทนตามใบมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.๑ แต่ใบมอบอำนาจดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์จึงใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๑๘ นายสนุก เถียรทวี จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้แทนโจทก์ ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมิได้ต่อสู้ในเรื่องที่โจทก์มอบอำนาจให้นายสนุก เถียรทวี ฟ้องคดีแทน จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่านายสนุก เถียรทวี มีอำนาจฟ้องแทนโจทก์หรือไม่ กรณีไม่จำเป็นต้องฟังพยานเอกสารหมาย จ.๑ อีกต่อไป คดีจึงฟังได้ว่านายสนุก เถียรทวี มีอำนาจฟ้องแทนโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้กล่าวในฟ้องว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายสนุก เถียรทวี เป็นผู้ฟ้องคดีนี้แทนตามใบมอบอำนาจท้ายฟ้อง จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้เลย จึงถือว่าจำเลยยอมรับว่านายสนุก เถียรทวี ได้รับมอบอำนาจที่ถูกต้องตามใบมอบอำนาจนั้นจริง ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้สงสัยว่าเป็นการมอบอำนาจที่ไม่ถูกต้อง คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายสนุก เถียรทวี ฟ้องคดีนี้จริง ไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบในข้อนี้ โจทก์จึงไม่ต้องส่งใบมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐานต่อศาลอีก ฉะนั้น แม้ใบมอบอำนาจนี้จะปิดอากรแสตมป์หรือไม่ก็ตามก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อการรับฟังข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้โต้แย้งว่านายสนุก เถียรทวี มีอำนาจฟ้อง
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share