คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์รับเช็คพิพาทตามฟ้องจากจำเลยที่ 2 เช็คดังกล่าวมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงได้คืนเช็คพร้อมใบคืนเช็คให้จำเลยที่ 2 และรับเช็คที่จำเลยที่ 2 ออกให้ใหม่แทนเช็คพิพาท ดังนี้ ถือว่าโจทก์สละการครอบครองเช็คพิพาทรวมทั้งสิทธิเรียกร้องตามเช็คนั้นแล้ว โจทก์จึงไม่เป็นผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาสามยอด รวม ๓ ฉบับ เป็นเงิน ๑๘,๐๐๐ บาท มีจำเลยที่ ๑ เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ ๒ เป็นผู้สลักหลัง เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ เมื่อเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระ โจทก์ได้นำไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารไทยทนุ จำกัด เพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาสามยอด ปฏิเสธการจ่ายเงินทุกฉบับ โจทก์ติดต่อทวงถามจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยไม่ชำระ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินถึงวันฟ้อง และนับตั้งแต่วันฟ้องต่อไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า เมื่อประมาณกลางปี ๒๕๑๕ จำเลยที่ ๑ ได้สั่งซื้อกระเป๋าจากนายสงวน แซ่เตียว รวมเป็นเงิน ๑๘,๐๐๐ บาท และได้ออกเช็คให้ไว้รวม ๓ ฉบับ แต่นายสงวนมอบกระเป๋าให้ไม่ครบ คิดเป็นเงินเพียง ๓,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๑ จึงอายัดการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยที่ ๑ ไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ ๒ และโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คไม่มีเช็คมาแสดง ไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์มอบเช็คทั้งสามฉบับตามฟ้องพร้อมใบคืนเช็คให้แก่จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๒ ได้ออกเช็คใหม่ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมิใช่เป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องทั้งสามฉบับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๔ ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยที่ ๑ ถึงแก่กรรม ศาลฎีกาอนุญาตให้นายสำรวย วิสุทธิกุล เป็นคู่ความแทน
วินิจฉัยว่า การที่โจทก์มอบเช็คพิพาทตามฟ้องสามฉบับและใบคืนเช็คให้แก่จำเลยที่ ๒ เพราะจำเลยที่ ๒ ได้ออกเช็คให้แก่โจทก์ใหม่สามฉบับแทนเช็คพิพาท สั่งจ่ายเงินเท่าจำนวนเงินในเช็คพิพาท โจทก์พอใจรับเช็คสามฉบับที่จำเลยที่ ๒ เป็นผู้สั่งจ่าย ฉะนั้นที่โจทก์คืนเช็คพิพาทให้จำเลยที่ ๒ ย่อมมีผลเป็นการสละการครอบครองเช็คพิพาทรวมทั้งสิทธิเรียกร้องตามเช็คนั้น และขณะฟ้องโจทก์ไม่ได้ครอบครองเช็คพิพาทในฐานะเป็นผู้รับเงินโดยได้คืนเช็คพิพาททั้งสามฉบับให้แก่จำเลยที่ ๒ ดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงไม่เป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๔ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน

Share