คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขายรถยนต์ให้แก่จำเลย แล้วจำเลยไม่ชำระราคาให้โจทก์ครบตามกำหนดที่ตกลงกันไว้ โจทก์ทวงถาม โจทก์กับจำเลยจึงตกลงกันว่า จำเลยยอมคืนรถยนต์ที่ซื้อมาให้โจทก์และยอมชำระเงินที่ค้าง 26,000 บาทให้โจทก์ด้วยข้อตกลงเช่นนี้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะไม่ใช่สัญญาระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน แต่เป็นเพียงการแปลงหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อรถยนต์จากโจทก์ราคา ๖๒,๐๐๐ บาท จะชำระเงินให้โจทก์ก่อน ๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะผ่อนชำระเดือนละ ๒,๐๐๐ บาทตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๑๑ หลังจากจำเลยรับรถยนต์ไปจากโจทก์แล้ว จนถึงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๒ จำเลยจะต้องชำระเงินให้โจทก์ ๓๗,๐๐๐ บาท แต่จำเลยชำระให้เพียง ๑๑,๐๐๐ บาท ต่อมาโจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยยอมคืนรถยนต์ตามสภาพที่เป็นอยู่ให้โจทก์พร้อมทั้งชำระเงินที่ค้าง๒๖,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ด้วย โจทก์ได้รับรถยนต์คืนแล้ว ส่วนเงิน ๒๖,๐๐๐ บาท จำเลยไม่ชำระจึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงิน ๒๖,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ตลอดมาและซ่อมรถยนต์คันพิพาทสิ้นเงินไป ๕,๐๐๐ บาท แล้วโจทก์มาเอารถยนต์ไป โดยจำเลยไม่รู้เห็นยินยอมด้วย ขอให้ยกฟ้องให้โจทก์ส่งมอบรถยนต์คันพิพาทคืนจำเลยหากไม่สามารถคืนได้ให้โจทก์ชำระเงิน ๑๑,๐๐๐ บาท ที่โจทก์ได้รับไปจากจำเลย และค่าซ่อมอีก ๕,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ชำระค่าเสียหายวันละ ๕๐ บาทจนถึงวันฟ้องแย้งเป็นเงิน ๕,๔๐๐ บาท
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยกับพวกนำรถยนต์มอบให้โจทก์เองขณะรับรถคืนจากจำเลย รถใช้การไม่ได้ ชำรุดทรุดโทรมเหลือราคาเพียง ๒๕,๐๐๐ บาท จำเลยไม่เสียหายจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๒๖,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์ให้โจทก์ชำระค่าเสียหาย ๕,๔๐๐ บาท ให้ยกคำขอของจำเลยที่ฟ้องแย้งให้โจทก์คืนรถ และคืนเงิน ๑๑,๐๐๐ บาท กับให้ใช้ค่าซ่อมรถเสีย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยยินยอมคืนรถยนต์คันพิพาทให้โจทก์ตามสภาพที่เป็นอยู่และตกลงจะชำระเงินที่ค้างชำระให้โจทก์ ๒๖,๐๐๐ บาท จำเลยยังไม่ได้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้โจทก์
ที่จำเลยต่อสู้ว่า ถ้ามีข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าได้มีการตกลงคืนรถยนต์พิพาทกับชำระเงินให้โจทก์ ๒๖,๐๐๐ บาทจริง ข้อตกลงดังกล่าวก็เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญาฝ่ายที่ต้องรับผิด จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่นั้น เห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวนี้หาใช่สัญญาระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันไม่ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นแต่เพียงการแปลงหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยเท่านั้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share