คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเมาสุราแล้วยิงปืนเข้าไปในฝูงชนโดยมิได้คำนึงว่ากระสุนปืนจะไปถูกใครเข้า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตน จำเลยจะอ้างความมึนเมาเป็นเหตุยกเว้นโทษไม่ได้เพราะจำเลยเสพสุราโดยมิได้ถูกขืนใจให้เสพหรือเสพโดยไม่รู้ว่าเป็นของมึนเมา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๑ เวลากลางคืน จำเลยบังอาจใช้ปืนยิงนายชลอ นาคกูล โดยมีเจตนาฆ่า นายชลอ นาคกูล ถูกยิงถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนั้นเอง เหตุเกิดตำบลสะเดา อำเภอนางรองจังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การว่า จำเลยมึนเมาสุราและถือปืนโดยประมาท ทำให้ปืนลั่นขึ้น ๑ นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายชลอถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่าพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุกไว้ ๑๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยมึนเมาสุราจนแทบครองสติไม่ได้ จำเลยพกพาอาวุธปืนเข้าไปปะทะกับผู้คนที่เบียดเสียดแล้วเอาปืนออกมาถือปืนเกิดลั่นขึ้นไปถูกผู้ตายเป็นความประมาทของจำเลย เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา แต่ได้ความว่าเป็นเรื่องประมาท จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยยิงปืนขึ้นด้วยฤทธิ์สุรา จำเลยยิงปืนเข้าไปในฝูงชนโดยมิได้คำนึงว่ากระสุนปืนจะไปถูกใครเข้า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตน จำเลยจะอ้างความมึนเมามาเป็นเหตุยกเว้นโทษหรือให้ได้รับโทษน้อยลงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๖ หาได้ไม่ เพราะจำเลยเสพสุราโดยไม่ได้ถูกขืนใจให้เสพหรือเสพโดยไม่รู้ว่าเป็นของมึนเมา แต่ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยถึง ๑๘ ปีนั้นค่อนข้างจะแรงไปสักหน่อย
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ วางโทษจำคุก ๑๕ ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา ๗๘ ลดโทษให้จำเลย ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลยมีกำหนด ๑๐ ปี

Share