คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คเงินสด โดยมิได้ลงวันที่ออกเช็คมีจำเลยที่ 2 สลักหลังแล้วมอบเช็คนั้นให้โจทก์ยึดถือไว้ ต่อมาโจทก์มอบเช็คดังกล่าวให้น้องชายโจทก์ไปขอเบิกเงินจากธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันที่ในเช็คนั้น โดยลงวันที่ที่น้องชายโจทก์ไปขอเบิกเงิน ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 มอบเช็คฉบับพิพาทให้โจทก์ย่อมถือได้โดยปริยายว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้โจทก์ลงวันที่ออกเช็คได้เอง ฉะนั้นการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารลงวันสั่งจ่าย (วันออกเช็ค) จึงถือเป็นปริยายได้อีกว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันที่ออกเช็คโดยสุจริตแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง และเป็นการลงวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริงเช็คฉบับพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2514)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ นำเช็คซึ่งมีชื่อจำเลยที่ ๑ เป็นผู้สั่งจ่ายเงินสดจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท และมีจำเลยที่ ๒ เซ็นชื่อสลักหลังเช็คในฐานะผู้ค้ำประกันมามอบให้โจทก์ แล้วขอยืมเงินจากโจทก์ โจทก์จึงมอบเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยที่ ๑ ไปต่อมาโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าเงินในบัญชีของจำเลยที่ ๑ มีไม่พอโจทก์ติดต่อให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ชำระเงินตามเช็ค จำเลยที่ ๑ ไม่มีเงินชำระและจำเลยที่ ๒ ไม่ยอมชำระ อ้างว่าไม่ต้องรับผิดตามเช็ค จึงขอให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่สามารถชำระให้จำเลยที่ ๒ ชำระแทนในฐานะผู้ค้ำประกันและผู้สลักหลังเช็ค
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ เคยขอร้องให้ช่วยเป็นพยานให้ในเช็คเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินจากผู้อื่น จำเลยที่ ๒ จึงเซ็นชื่อในเช็คฉบับหนึ่งมอบให้จำเลยที่ ๑ ไป หากลายมือชื่อด้านหลังที่โจทก์ฟ้องเป็นลายมือชื่อของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ก็มิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้ค้ำประกัน หรือเพื่อเจตนาให้มีผลเป็นอาวัล เช็คฉบับที่จำเลยที่ ๒ ลงลายมือชื่อด้านหลังไม่มีวันเดือนปีที่สั่งจ่ายลงไว้ จำเลยที่ ๒ ไม่เชื่อว่าจำเลยที่ ๑ จะได้มอบหมายให้ผู้ทรงหรือใครลงวันเดือนปีสั่งจ่ายที่ถูกต้องลงในเช็คฉบับนั้น (ซึ่งอาจจะเป็นฉบับพิพาท) เช็คฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดสารสำคัญแห่งการเป็นเช็คตามกฎหมายเรื่องตั๋วเงิน โจทก์จึงไม่มีสิทธินำมาฟ้องเรียกเงิน
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาส่วนจำเลยที่ ๒ แถลงรับว่า ได้เซ็นชื่อไว้ด้านหลังของเช็คจริงแต่เซ็นในฐานะพยาน และมิใช่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็ค โจทก์แถลงรับว่าเช็คฉบับนี้มิได้ลงวันที่สั่งจ่ายมาก่อน และเจ้าหน้าที่ทางธนาคารได้พิมพ์วันที่สั่งจ่ายไว้ในวันที่โจทก์ไปขอรับเงิน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๑ ยืมเงินโจทก์ไปแล้วเซ็นเช็คสั่งจ่ายให้โจทก์ไว้เป็นหลักฐาน จำเลยที่ ๑ จึงต้องรับผิดตามจำนวนเงินในเช็คส่วนจำเลยที่ ๒ ลงลายมือชื่อไว้ด้านหลังเช็คย่อมเป็นประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ ๒ จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ในเรื่องที่จำเลยต่อสู้ว่าเช็คไม่มีวันสั่งจ่าย ขาดสารสำคัญของเช็คนั้น ศาลชั้นต้นเห็นว่าแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายจัดการให้มีการลงวันที่สั่งจ่ายภายหลังก็ไม่ทำให้เช็คดังกล่าวไม่สมบูรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย หากจำเลยที่ ๑ ไม่สามารถชำระ ให้จำเลยที่ ๒ ชำระหนี้แทนในฐานะผู้ค้ำประกันและสลักหลังเช็ค
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยที่ ๑ ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้สลักหลังเช็คมอบให้โจทก์ไว้ และจำเลยที่ ๑ รับเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทไปจากโจทก์ เช็คมิได้ลงวันออกเช็ค ต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคารลงวันที่สั่งจ่าย (วันออกเช็ค) ในวันที่น้องชายโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินแต่เงินในบัญชีของจำเลยที่ ๑ มีไม่พอจ่าย ธนาคารจึงปฏิเสธการจ่ายเงิน
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ มอบเช็คฉบับพิพาทให้โจทก์ย่อมถือได้โดยปริยายว่า จำเลยที่ ๑ ได้มอบหมายให้โจทก์ลงวันที่ออกเช็คได้เองฉะนั้น การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารลงวันสั่งจ่าย (วันออกเช็ค) จึงถือเป็นปริยายได้อีกว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันที่ออกเช็คโดยสุจริตแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงและเป็นการลงวันที่ออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริง เช็คฉบับพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
พิพากษายืน

Share