คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจในใบมอบอำนาจซึ่งต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนนั้น มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายห้ามไว้โดยชัดแจ้งว่า ผู้รับมอบอำนาจจะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจด้วยไม่ได้ ดังนั้น เมื่อผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้มอบอำนาจร่วมกับพยานอื่นรวมเป็นพยานรับรองสองคน ก็เป็นอันใช้ได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 และ 20/2514)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันหลอกลวงโจทก์ให้พิมพ์ลายนิ้วมือในแบบพิมพ์ซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความหลายฉบับ แล้วจำเลยนำไปกรอกข้อความว่าโจทก์กู้เงิน จำเลยที่ ๒ ว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ จำนองที่นาไว้กับจำเลยที่ ๒, ๓ และว่าโจทก์เป็นผู้ยื่นเรื่องราวขอจำนองที่นา กรมการอำเภอสันทรายจึงทำหนังสือสัญญาจำนองที่นาของโจทก์ไว้กับจำเลยที่ ๒, ๓ ต่อมาจำเลยได้หลอกลวงโจทก์ให้พิมพ์ลายนิ้วมืออีกเอาไปกรอกข้อความว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ไถ่จำนองและจำนอง แล้วมีการไถ่จำนองและจำนองใหม่เพิ่มเงินมากขึ้นครั้งสุดท้ายได้หลอกลวงให้โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือแล้วจำเลยเอาไปกรอกข้อความว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ โอนที่นาของโจทก์ชำระหนี้จำนองให้จำเลยที่ ๒, ๓ กรมการอำเภอจึงทำบันทึกข้อตกลงโอนที่นาของโจทก์ชำระหนี้จำนองให้จำเลยที่ ๒, ๓ และจดทะเบียนการโอนความจริงโจทก์ไม่ได้กู้เงินจำเลยที่ ๒, ๓ และไม่ได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ทำนิติกรรมต่าง ๆ แทน ขอให้เพิกถอนบันทึกข้อตกลงโอนที่นาของโจทก์ชำระหนี้จำนอง และเพิกถอนเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่าโจทก์กู้เงินจำเลยและเอกสารต่าง ๆ ได้กระทำโดยถูกต้องสมบูรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือในเอกสารต่าง ๆ โดยทราบข้อความในเอกสารนั้นแล้ว จำเลยหาได้หลอกลวงโจทก์ให้พิมพ์ลายนิ้วมือในแบบพิมพ์ซึ่งยังมิได้กรอกข้อความไม่ ฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ไถ่ถอนจำนองและจำนองตามเอกสารหมาย จ.๓ และโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ไปโอนที่นา น.ส. ๓ ของโจทก์ชำระหนี้จำนองให้จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ตามเอกสารหมาย จ.๔
ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ จำเลยที่ ๑ มิใช่ผู้อยู่ในฐานะเป็นพยาน จำเลยที่ ๑ ลงลายมือชื่อเป็นพยานในใบมอบอำนาจด้วย ใบมอบอำนาจจึงเป็นโมฆะ นั้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายห้ามไว้โดยชัดแจ้งว่าผู้รับมอบอำนาจจะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจด้วยไม่ได้ ดังนั้น ใบมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.๔ ซึ่งจำเลยที่ ๑ ผู้รับมอบอำนาจได้ลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ในขณะนั้นคนหนึ่ง และมีนายดวงจันทร์ผู้ใหญ่บ้านลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ ขณะเดียวกันนั้นอีกคนหนึ่ง จึงเป็นใบมอบอำนาจที่ได้ทำถูกต้องตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙ ได้บังคับไว้แล้ว จึงเป็นอันใช้ได้
พิพากษายืน

Share