แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิ่งไปเอาขวานมาฟันจำเลยถึงบ้านจำเลย2 ที ถูกพื้นกระดาน 1 ที ถูกศีรษะจำเลย 1 ที จำเลยย่อมมีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ และจำเลยมิได้กระโดดลงมาจากบ้านเข้าต่อสู้กับผู้ตายที่พื้นดินหน้าบ้าน จึงไม่มีเหตุที่จะถือว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตาย การที่จำเลยแทงภายหลังที่ผู้ตายใช้ขวานฟันถึง 2 ครั้งในเวลามืดค่ำ มีแต่แสงตะเกียงในบ้านจำเลย และต่างคนมึนเมาสุราด้วยกัน โดยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน พฤติการณ์เหล่านี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๑๑ เวลากลางคืน จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงนายสิน ชัยขันธ์หรือไชยขันธ์ โดยเจตนาฆ่าถูกนายสินถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลหลักสอง อำเภอหนองแขมจังหวัดธนบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘และริบมีดพกของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกับผู้ตายสมัครใจวิวาทต่อสู้กันพิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘จำคุก ๑๘ ปี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๒ ปีริบมีดของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุถือขวานไปฟันทำร้ายจำเลยถึงบนบ้านเรือนก่อนจำเลยจึงใช้มีดยาว ๔-๕ นิ้วฟุตแทงเอาดังนั้น เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิ่งไปเอาขวานมาฟันจำเลยถึงบ้านจำเลย๒ ที ถูกพื้นกระดาน ๑ ที ถูกศีรษะจำเลย ๑ ที จำเลยย่อมมีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้และจำเลยมิได้กระโดดลงจากบ้านเข้าต่อสู้กับผู้ตายที่พื้นดินหน้าบ้านจำเลย จึงไม่มีเหตุจะถือว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตาย และการกระทำของจำเลยที่แทงภายหลังที่จำเลยใช้ขวานฟันถึง ๒ ครั้งในเวลามืดค่ำมีแต่แสงตะเกียงในบ้านจำเลย และต่างก็คงมึนเมาสุราด้วยกัน โดยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เพียงแต่ทะเลาะกันเวลาเมาสุราด้วยกันเท่านั้น พฤติการณ์เหล่านี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำพอสมควรแก่เหตุ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยโดยถือว่าจำเลยสมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้ตาย ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น