แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งทิศเหนือจดชายทะเลจำเลยปลูกบ้านลงในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินตรงหน้าที่ดินโจทก์ โจทก์ได้รับความเสียหายขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนออกไป
จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาท ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าด้านทิศเหนือของที่ดินโจทก์จดชายทะเล ตรงที่ชายทะเลติดกับที่ดินของโจทก์ซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยเข้าครอบครองและปลูกเรือนอยู่อาศัยเต็มหน้าที่ดินของโจทก์ วินิจฉัยว่าที่ดินของโจทก์จดชายทะเลหรือชายตลิ่งของทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เมื่อจำเลยปลูกเรือนและเข้าครอบครองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์ จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้โดยสะดวก โจทก์จึงเป็นผู้ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทได้
พิพากษายืน
