แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ.2485 ที่ว่า เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการชลประทาน ถ้าไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีอื่น ให้เจ้าของที่ดินที่อยู่ห่างทางน้ำหรือแหล่งน้ำใดมีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของผู้อื่นได้ ในเมื่อนายช่างชลประทาน ข้าหลวงประจำจังหวัดหรือนายอำเภอได้อนุญาตและกำหนดให้โดยกว้างรวมทั้งที่ทิ้งดินด้วยไม่เกินสิบเมตร แต่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เจ้าของและผู้ครอบครองที่ดินที่ทางน้ำผ่านนั้น หมายความว่าต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเสียก่อน จึงจะมีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินได้
แม้ที่ดินของโจทก์จะถูกนายช่างชลประทานใช้รถขุดดินทำทางน้ำผ่านเพื่อประโยชน์แก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ห่างทางน้ำ โดยยังไม่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ แต่เมื่อมีกฎหมายเวนคืนที่ดินของโจทก์ให้แก่กรมชลประทานแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้บังคับนายช่างชลประทานหรือกรมชลประทานกลบที่ดินที่ถูกขุดให้กลับคงคืนตามสภาพเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ได้ใช้ให้ข้าราชการในบังคับบัญชาของตนร่วมกับจำเลยที่ ๑ เข้าไปในที่ดินโฉนดที่ ๒๔๘๘ ของโจทก์ จำเลยที่ ๑ ได้ชี้แนวเขตทำการปักหลักเขตเป็นแนวกว้าง ๖ เมตร ยาวประมาณ๓๒๐ เมตร จำเลยที่ ๒ ได้จัดรถขุดดินเข้าขุดที่ดินตามแนวนั้นลึกประมาณ ๓ เมตร โจทก์ห้ามก็ไม่ฟัง ทำให้ที่ดินของโจทก์เป็นคลองลึกใช้น้ำไม่ได้ จำเลยที่ ๓-๔ ต้องรับผิดชอบในผลเสียหาย อันเกิดจากการกระทำของจำเลยที่ ๑-๒ ในทางแพ่ง ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑-๒ ทางอาญาและให้จำเลยทั้งสี่กลบที่ดินของโจทก์ให้กลับคงคืนตามสภาพเดิม
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ขอถอนฟ้องคดีส่วนอาญา ศาลอนุญาตและระหว่างส่งหมายเรียกทางแพ่ง จำเลยที่ ๒ ตาย โจทก์ขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒ ศาลอนุญาต
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า มิได้ชี้แนวเขตและปักหลัก
จำเลยที่ ๓ ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๔ ต่อสู้ว่า จำเลยที่ ๔ มีหน้าที่ดำเนินการและควบคุมกิจการชลประทานทั่วประเทศ จำเลยที่ ๒ เป็นนายช่างชลประทานโครงการชันสูตรที่ดำเนินการขุดคลองระบายน้ำในที่พิพาท ก็เนื่องจากเจ้าของที่ดินหลายรายที่อยู่ทางใต้ที่ดินโจทก์ และห่างไกลทางน้ำชลประทานได้แสดงความจำนงขอทำทางน้ำผ่านที่ดินโจทก์เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทำนาและจำเลยที่ ๒ เห็นว่าไม่มีวิธีอื่น จึงอนุญาตและช่วยเหลือใช้รถขุด ก่อนขุดราษฎรทุกคนและโจทก์ยินยอม จำเลยที่ ๒ ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาและจำเลยที่ ๔ ทำตามตำแหน่งหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ ๑ได้ชี้แนวเขตและปักหลักเขต สำหรับจำเลยที่ ๔ เมื่อหน่วยงานชลประทานโครงการชันสูตรนำรถเข้าขุดที่ดินของโจทก์ โดยโจทก์มิได้ยินยอม และเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายด้วยนั้น จำเลยที่ ๔ ต้องรับผิดร่วมด้วยพิพากษาให้ยกฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ให้จำเลยที่ ๔ จัดการกลบที่ดินของโจทก์ที่ถูกขุดให้คงคืนตามสภาพเดิม
จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. ๒๔๘๕มาตรา ๙ ให้สิทธิเจ้าของที่ดิน ผู้จะได้รับประโยชน์จากการชลประทานที่อยู่ห่างทางน้ำและไม่มีวิธีอื่นทำได้ มีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของผู้อื่นได้ตามเงื่อนไขที่ระบุ รถขุดของโครงการชันสูตรทำแทนเจ้าของที่ดินผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ไม่เป็นละเมิดจำเลยที่ ๔ ไม่ต้องรับผิด พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๔ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๙ได้บัญญัติไว้ว่า “เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการชลประทานถ้าไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีอื่น ให้เจ้าของที่ดินที่อยู่ห่างทางน้ำหรือแหล่งน้ำใดมีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของผู้อื่นได้ ในเมื่อนายช่างชลประทาน ข้าหลวงประจำจังหวัดหรือนายอำเภอได้อนุญาตและกำหนดให้โดยกว้างรวมทั้งที่ทิ้งดินด้วยไม่เกิน ๑๐ เมตร แต่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เจ้าของและผู้ครอบครองที่ดินที่ทางน้ำนั้นผ่าน ฯลฯ”เมื่อเทียบกับมาตรา ๑๒ แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน ซึ่งให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเข้าครอบครองและใช้ที่ดินเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อทำประโยชน์ในการชลประทานได้ แม้จะยังมิได้ชำระเงินค่าทำขวัญ ฯลฯ แล้ว เห็นได้ว่าความมุ่งหมายของมาตรา ๙นั้น เจ้าของที่ดินที่อยู่ห่างทางน้ำ แม้ไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีอื่น และนายช่างชลประทานจะได้อนุญาตให้ทำทางน้ำผ่านที่ดินของโจทก์ได้แล้วก็ตาม ก็ยังมีหน้าที่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เสียก่อนจึงจะมีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของโจทก์ และเมื่อเจ้าของที่ดินที่อยู่ห่างทางน้ำยังไม่มีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายช่างชลประทานก็ยังไม่มีสิทธิทำทางน้ำผ่านที่ดินของโจทก์ในนามบุคคลดังกล่าว คดีนี้โจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน เพียงแต่ขอให้จำเลยที่ ๒ หรือจำเลยที่ ๔ ผู้บังคับบัญชาจำเลยที่ ๒ กลบที่ดินของโจทก์ให้กลับคงคืนตามสภาพเดิม คำขอข้อนี้ของโจทก์ไม่อาจบังคับได้ เพราะปรากฏว่าได้มี พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลถอนสมอ ฯลฯ พ.ศ. ๒๕๑๑ ให้เวนคืนที่รายพิพาทให้แก่กรมชลประทานจำเลยที่ ๔ แล้ว
พิพากษายืน