แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่จำเลยทำรั้วลวดหนามปิดกั้นทางเดินซึ่งเป็นภารจำยอม ไม่ใช่ข้อสารสำคัญที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่ง เป็นแต่เพียงข้อที่อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณาเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ ๕๓๒๙อยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ โฉนดที่ ๕๓๙๐ ทางตะวันออก จำเลยกั้นรั้วปิดทางเดินรายพิพาทซึ่งอยู่ในที่ของจำเลยอันเป็นภารยทรัพย์ขอให้ศาลพิพากษาว่าทางเดินรายพิพาทเป็นภารจำยอม ฯลฯ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่กล่าวว่าจำเลยปิดกั้นเมื่อวันเดือนปีใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ฯลฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ทางพิพาทยังฟังไม่ได้ว่าเป็นทางภารจำยอมพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นทางภารจำยอม พิพากษากลับเป็นว่าทางพิพาทเป็นภารจำยอม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า รายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่จำเลยทำรั้วลวดหนามปิดทางเดินไม่ใช่ข้อสารสำคัญที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่งเป็นแต่เพียงข้อที่อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณาเท่านั้น คำบรรยายฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา เพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาต่อสู้คดีได้พอสมควรแล้ว
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ทางรายพิพาทเป็นทางภารจำยอม
พิพากษายืน