แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องอุทธรณ์ที่มิได้ลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์เป็นฟ้องที่ไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67 (5) และเมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีไปโดยมิได้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ศาลฎีกาย่อมยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพื่อให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาตามมาตรา 18 วรรคสอง โดยให้ผู้อุทธรณ์ลงลายมือชื่อในฟ้องอุทธรณ์เสียให้ถูกต้อง แล้วให้ส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า จำเลยทั้งหกบุกรุกที่ดินของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและห้ามเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว กับให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๖๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว
จำเลยทั้งหกให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๒ และไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิกับจำเลยที่ ๓ ถึงที่ ๖ ที่ดินพิพาทตามฟ้องเป็นของจำเลย ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่ได้เสียหาย และที่ดินพิพาทตามฟ้องหากให้เช่าจะได้ไม่เกินเดือนละ ๕๐ บาท ขอให้ยกฟ้อง
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ที่ ๑ ถึงแก่ความตายศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้นายอนันต์ นุชภู่ เข้าเป็นคู่ความแทนที่ตามที่ร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นสมควรยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นวินิจฉัยก่อนว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ในคดีนี้เป็นฟ้องอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้อุทธรณ์ในฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีไปโดยมิได้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวให้บริบูรณ์เสียก่อน ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องอุทธรณ์ที่มิได้ลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์นั้น เป็นฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่บริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๗(๕) ควรยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพื่อให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ วรรคสองโดยให้โจทก์ทั้งสองลงลายมือชื่อในฐานะผู้อุทธรณ์ในฟ้องอุทธรณ์เสียให้บริบูรณ์ตามกฎหมาย เมื่อเป็นฟ้องอุทธรณ์ที่บริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ให้ส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ คดียังไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นอีก
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นจัดการให้โจทก์ทั้งสองลงลายมือชื่อในฐานะผู้อุทธรณ์ในฟ้องอุทธรณ์เสียให้ถูกต้อง แล้วให้ส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่