คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ได้รับค่าจ้างเป็นรายวันกำหนดจ่ายค่าจ้างในวันที่ 1 และ 16 ของเดือน วันทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2529 แม้วันที่ 16 พฤศจิกายน 2529 จะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์และมีการจ่ายสินจ้างในวันที่ 17 ก็ตาม การเลิกจ้างก็ย่อมมีผลในวันที่ 16 ธันวาคม 2529 ซึ่งเป็นวันถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปและต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าถึงงวดวันที่ 16 ธันวาคม 2529 รวมเป็น 29 วัน แต่โดยที่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีวันหยุดประจำสัปดาห์ 4 วัน จำเลยจึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ 25 วัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยทั้งสอง ค่าจ้างวันละ ๑๙๕ บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ ๑ และวันที่ ๑๖ ของเดือน ต่อมาวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ จำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิดและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์มีสิทธิได้รับค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าจ้างค้างชำระ และโจทก์มีสิทธิหยุดตามประเพณี ๑๐ วัน มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปี ๑๑ วัน แต่จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างในวันหยุดดังกล่าวแก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าถึงคราวถัดไปคือวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๒๙ ค่าจ้างค้างจ่าย ค่าทำงานในวันหยุดพร้อมด้วยดอกเบี้ย กับให้ออกใบผ่านงานให้โจทก์ด้วย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินตามฟ้องเพราะโจทก์กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและจำเลยได้ตักเตือนแล้ว หรือไม่โจทก์ก็ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหายอย่างร้ายแรง โดยโจทก์ทำให้เครื่องไสเสียเพราะฝืนใช้เครื่องไสทำงานเกินกำลังทำให้จำเลยเสียหาย ๒๒,๑๕๐ บาท ต่อมาโจทก์จัดคำสั่งของจำเลยที่ให้โจทก์ไปปฏิบัติงานด่วนที่จังหวัดราชบุรี ทำให้จำเลยเสียหายถูกลูกค้าเลิกสัญญา จำเลยจึงสั่งพักงานโจทก์ ๗ วัน หลังจากนั้นโจทก์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้เครื่องไสของจำเลยเสียหายอีก จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ ส่วนค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีและวันหยุดพักผ่อนประจำปีนั้น จำเลยจ่ายให้โจทก์แล้ว จึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย ๙๓,๖๒๐ บาทจากโจทก์
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ทำงานประจำเครื่องไส เครื่องไสของจำเลยมีอายุการใช้งานนานแล้วย่อมชำรุดเป็นธรรมดา สัญญาจ้างกำหนดให้โจทก์ทำงานที่จังหวัดนนทบุรี งานที่จำเลยให้โจทก์ไปทำที่จังหวัดราชบุรีเป็นงานที่โจทก์ไม่มีความรู้โจทก์จึงไม่ยอมไป จำเลยใช้โจทก์ไปเพราะต้องการกลั่นแกล้งโจทก์ เครื่องไสที่เสียครั้งหลังนั้นได้ชำรุดอยู่ก่อนโจทก์ใช้งานแล้ว
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก และยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยได้รับค่าจ้างรายวัน วันละ ๑๙๕ บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างในวันที่ ๑ และวันที่ ๑๖ ของเดือน วันทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ จำเลยจึงได้เลิกจ้างโจทก์ ถึงแม้วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ จะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ และจ่ายสินจ้างในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ก็ตาม ก็หาทำให้กำหนดจ่ายสินจ้างในวันที่ ๑ และวันที่ ๑๖ ของเดือนตามปกตินั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่ ดังนั้นเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ การเลิกจ้างย่อมมีผลตามกฎหมายในวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นวันถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไป จำเลยจึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าในงวดวันที่ ๑ ธันวาคม กับงวดวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๒๙ รวม ๒๙ วัน แต่โดยที่เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเสีย ๔ วัน จึงเป็นระยะเวลาที่จำเลยจะต้องรับผิดจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์เพียง ๒๕ วัน เป็นเงินจำนวน ๔,๘๗๕ บาท
พิพากษายืน

Share