คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5888/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายจ้างได้รับอนุญาตให้ใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดโดยอธิบดีกรมแรงงานได้อนุญาตตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 11 วรรคสามที่แก้ไขแล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าให้ใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดตามความจำเป็นแห่งงานด้วยความสมัครใจของ ลูกจ้าง เช่นนี้ การที่นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือในวันหยุดได้จึงต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของลูกจ้าง เมื่อลูกจ้างไม่สมัครใจมาทำงานเกินเวลาทำงานตามปกติตามคำสั่งของนายจ้างจึงไม่อาจถือได้ว่าลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่ง ันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างนายจ้างจึงไม่มีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์มิได้กระทำผิดและไม่บอกกล่าวล่วงหน้า นอกจากนี้จำเลยยังค้างชำระค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์แก่โจทก์อีก ๑ วันด้วย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากจำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทำงานเกินกำหนดเวลาทำงานปกติตั้งแต่วันที่ ๑ ถึง ๑๓ มิถุนายน ๒๕๓๐ แต่โจทก์ไม่ยอมเข้าทำงาน ทำให้งานของจำเลยได้รับความเสียหาย ก่อนเลิกจ้างจำเลยได้ตักเตือนโจทก์เป็นหนังสือแล้ว การกระทำของโจทก์เป็นการจงใจฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย ทำให้จำเลยเสียหาย จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าการที่จำเลยสั่งให้โจทก์ทำงานเกินกำหนดเวลาทำงานปกตินั้นไม่ใช่เป็นงานเร่งด่วน งานฉุกเฉิน ดังนั้นจึงเป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะทำหรือไม่ก็ได้ การที่โจทก์ไม่ยอมทำงานเกินเวลาทำงานปกติตามคำสั่งของจำเลย ถือไม่ได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าจ้างค้างชำระแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๓ บังคับให้นายจ้างประกาศกำหนดเวลาทำงานปกติของลูกจ้างไว้ไม่เกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด ซึ่งแล้วแต่ประเภทของงาน ประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์จะคุ้มครองลูกจ้าง โดยบังคับให้นายจ้างใช้แรงงานของลูกจ้างเกินกำลังหรือเกินสมควร แต่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ข้อ ๑๑ วรรคสามที่แก้ไขแล้วกำหนดข้อยกเว้นให้นายจ้างอาจให้ลูกจ้างทำงานเกินเวลาทำงานปกติหรือในวันหยุดได้เท่าที่จำเป็น โดยนายจ้างต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ซึ่งในกรณีนี้ปรากฏว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดได้โดยในใบอนุญาตให้ทำงานดังกล่าว อธิบดีกรมแรงงานได้อนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อได้รับอนุญาตแล้วให้ใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดตามความจำเป็นแห่งงานด้วยความสมัครใจของลูกจ้าง เช่นนี้ การที่จำเลยจะให้โจทก์ทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในงวันหยุดได้จึงต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของโจทก์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตให้ทำงานนั้น เมื่อโจทก์ไม่สมัครใจมาทำงานเกินเวลาทำงานปกติตามคำสั่งของจำเลย จึงไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย จำเลยไม่มีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่จ่ายค่าชดเชย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share