คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5183/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีฟ้องหย่าและขอแบ่งสินสมรสเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัวไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ มาตรา 1533 บัญญัติว่า เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน การที่โจทก์จำเลยยังไม่ได้หย่ากันเพียงแต่เคยแยกกันอยู่ ถือไม่ได้มีแบ่งสินสมรสกันแล้วจึงต้องแบ่งสินสมรสให้โจทก์จำเลยได้ส่วนเท่ากันตามนัย มาตรา 1533 ดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยแบ่งสินสมรสให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง หากแบ่งกันไม่ได้ให้เอาทรัพย์ออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินแบ่งกัน
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการและว่าได้มีการแบ่งทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรสจนหมดแล้ว จำเลยไม่มีทรัพย์สินจะแบ่งให้โจทก์อีก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยแบ่งทรัพย์สินคือยุ้งข้าวและที่นาให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง หากแบ่งไม่ได้ให้เอาทรัพย์ออกขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ สำหรับการแบ่งทรัพย์สินทั้งสองรายการ (คือยุ้งข้าวกับที่นา) นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยแก้ฎีกาว่า คดีนี้ราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลย และขอแบ่งสินสมรส เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาได้
ในปัญหาเรื่องการแบ่งทรัพย์สินที่นาและยุ้งข้าว ตามฎีกาของโจทก์นั้น ข้อเท็จจริงฟังยุติว่าทรัพย์พิพาทดังกล่าวเป็นสินสมรส เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ มาตรา ๑๕๓๓ บัญญัติว่าเมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน การที่โจทก์จำเลยยังไม่ได้หย่ากัน เพียงแต่เคยแยกกันอยู่ จึงถือไม่ได้ว่ามีการแบ่งสินสมรสกันแล้ว ในชั้นฎีกาพิพาทกันเฉพาะที่นาและยุ้งข้าวซึ่งเป็นสินสมรส จึงต้องแบ่งให้โจทก์และจำเลยได้ส่วนเท่ากัน ตามนัย มาตรา ๑๕๓๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share