คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่ให้ลดค่าปรับ เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุเดิมอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว ศาลชั้นต้นอนุญาต และตีราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท ถึงวันนัดจำเลยและผู้ประกันไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกัน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญา วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๒๙ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดปรับ หรือลดค่าปรับโดยอ้างว่าได้พยายามติดตามตัวจำเลย และขอส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันที่ยื่นคำร้อง ซึ่งศาลเบิกตัวจำเลยมาพิจารณาคดีอื่น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีหนังสือขอตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ผู้ประกันควบคุมจำเลยมาส่งศาล จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้ประกันอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เพราะยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๘
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๙ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับ โดยอ้างว่าได้พยายามติดตามจำเลยมาส่งศาลและติดต่อจนได้ตัวจำเลยมาศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไปทุกคดี ขอให้ลดค่าปรับเช่นเดียวกับคดีอื่น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดค่าปรับให้ผู้ประกันเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท คงปรับ ๙๐,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ประกันฎีกาขอให้ลดค่าปรับลงอีก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดปรับหรือลดค่าปรับโดยอ้างว่าได้พยายามติดตามตัวจำเลยและขอส่งตัวจำเลยต่อศาลซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีหนังสือขอตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไม่ใช่ผู้ประกันคุมตัวจำเลยมาส่งศาล จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๘ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุอย่างเดียวกันนั้นอีกเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๔ ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมและผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบ ฎีกาของผู้ประกันที่ขอให้ลดค่าปรับลงอีกจึงไม่ชอบที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาของผู้ประกัน.

Share