คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อนและสืบพยานเสร็จไปแล้วระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อเอกสารที่โจทก์ขอระบุเพิ่มเติมเป็นเพียงคำอธิบายวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ซึ่งโจทก์ได้นำสืบไปแล้วไม่ใช่เอกสารที่มีกฎหมายบังคับให้นำมาแสดงพยานที่โจทก์ระบุเพิ่มเติมจึงมิได้เป็นพยาน เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมจำเป็นต้องสืบพยานเช่นว่านั้นทั้งเป็นการระบุอ้างเพิ่มเติมฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 จึงไม่ควรรับไว้พิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ มอบหมายให้โจทก์ทำการซื้อขายหลักทรัพย์แทนจำเลยในตลาดหลักทรัพย์ จำเลยให้โจทก์ซื้อหุ้นของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เฟิสท์ทรัสต์ จำกัดแทนจำเลยโดยโจทก์ได้ทดรองจ่ายไปก่อน จำเลยได้ชำระให้โจทก์บางส่วน รวมยอดหนี้ที่จำเลยค้างอยู่พร้อมดอกเบี้ยจำนวน ๒๕๑,๗๑๒ บาท ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจซื้อขายหลักทรัพย์ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ การตั้งโจทก์เป็นตัวแทนไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นให้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จคดีอยู่ระหว่างพิจารณาสืบพยาน โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมโดยอ้างหนังสือสมทนาภาษาหุ้นกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ศาลชั้นต้นสั่งว่าพยานหลักฐานที่โจทก์ขออ้างเพิ่มเติมไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทในคดี จึงไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติม ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานเอกสารที่โจทก์ระบุเพิ่มเติมครั้งที่ ๖ เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทในคดี ต้องรับพยานโจทก์ไว้พิจารณา พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ ๖ ของโจทก์ไว้ประกอบการพิจารณาและดำเนินการต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อนเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จ ศาลสืบพยานจำเลยได้ ๑ ปากในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดต่อมาโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ ๖ คือหนังสือสนทนาภาษาหุ้นกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัญหาวินิจฉัยว่า มีเหตุต้องรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ ๖ ของโจทก์หรือไม่พิเคราะห์แล้ว โจทก์นำผู้จัดการบริษัทโจทก์สาขากรุงเทพมหานครเข้าสืบถึงอำนาจหน้าที่ของโจทก์ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๑๗ ตลอดถึงข้อปฏิบัติในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไว้ครบถ้วนตามประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ซึ่งมีใจความทำนองเดียวกันกับข้อความที่ปรากฏในหนังสือสนทนาภาษาหุ้นกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่โจทก์ขอระบุเพิ่มเติม เมื่อหนังสือสนทนาภาษาหุ้นฯ เป็นเพียงคำอธิบายวิธีปฏิบัติให้เข้าใจง่ายขึ้น ไม่ใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงไม่อาจนำมาชี้ขาดประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีได้ และไม่ใช่เอกสารที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องนำมาแสดง เห็นว่าพยานที่โจทก์ระบุเพิ่มเติมมิได้เป็นพยานเพื่อให้การวินิจงฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมจำเป็นต้องสืบพยานเช่นว่านั้น ทั้งโจทก์ระบุอ้างเพิ่มเติมฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ จึงเป็นพยานที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์โจทก์ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ โดยไม่รับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างเพิ่มเติมครั้งที่ ๖

Share