คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3814/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย คำร้องขอให้พิจารณาใหม่จะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล คำร้องของโจทก์กล่าวแต่เพียงว่า โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา โจทก์มีความประสงค์ดำเนินคดีต่อไปเท่านั้น หาได้กล่าวคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอย่างไร ตามคำร้องก็ปรากฏข้อความซึ่งแสดงว่าโจทก์ทราบคำพิพากษาแล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเช็คที่โจทก์ออกให้จำเลยทั้งสองยึดถือไว้เป็นประกันการกู้ยืมคืนจากจำเลย จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดี และจำเลยที่ ๑ ฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระเงินซึ่งจำเลยที่ ๑ ทดรองจ่ายแทนโจทก์พร้อมดอกเบี้ย ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสองนำสืบก่อน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ไม่มาศาลและมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และสืบพยานจำเลยทั้งสองไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ และให้โจทก์ชำระเงินตามฟ้องแย้งพร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลยที่ ๑
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า มิได้จงใจขาดนัดเหตุที่โจทก์ไม่มาศาลตามนัดเพราะทนายโจทก์คนเดิมไปรับราชการทหาร โจทก์หาทนายความคนใหม่ไม่ทัน ในวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ได้มอบฉันทะให้นายชยวัฒน์มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่ปรากฏว่าบัญชีนัดของศาลลงวันนัดผิดพลาดจึงมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนั้น ขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ วรรคท้าย จะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล แต่คำร้องของโจทก์มิได้กล่าวคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่า โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาโจทก์มีความประสงค์ดำเนินคดีต่อไปเท่านั้น ไม่มีหลักฐานหรือเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าหากมีการพิจารณาใหม่แล้วศาลอาจพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีได้ ที่โจทก์กล่าวอ้างในฎีกาว่า โจทก์ไม่ทราบคำตัดสินของศาล โจทก์จะคัดค้านคำตัดสินของศาลได้อย่างไรนั้นโจทก์ได้กล่าวในคำร้องว่า คดีนี้ศาลได้สั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาไปแล้วเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ และงดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษาไปแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ ขอให้เพิกถอนคำสั่งและยกเลิกคำพิพากษาจากคำร้องดังกล่าว แสดงว่าโจทก์ได้ทราบคำพิพากษาของศาลแล้ว คำขอให้พิจารณาคดีใหม่จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ มาตรา ๒๐๘ วรรคท้าย แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พิพากษายืน

Share