แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยแทงผู้เสียหายหลายครั้งติด ๆ กัน ครั้งแรกแทงถูกที่ด้านหลังบริเวณหัวไหล่ ผู้เสียหายล้มลง พอลุกขึ้นจำเลยก็แทงที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อมีดหักจำเลยยังใช้ส่วนที่เหลือแทงบริเวณหลังผู้เสียหายอีก 3 ครั้ง มีดมีความยาวทั้งด้ามและตัวมีดถึง 9 นิ้ว เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้มีปลายแหลมสามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายถึงตายได้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันได เมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่ เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร การกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมกล่าวคือ ได้บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของนายจอมแล้วฉุดคร่าอนาจารนางสาวคล้ายผู้เสียหาย และได้ใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่แพทย์ได้รักษาทันท่วงที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และฐานอนาจารตามมาตรา ๒๗๘
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๔ และฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามมาตรา ๒๙๗
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยแทงนางสาวคล้ายผู้เสียหายหลายครั้งติด ๆ กัน ครั้งแรกแทงถูกที่ด้านหลังบริเวณใต้หัวไหล่ข้างซ้าย นางสาวคล้ายล้มฟุบลงพอลุกขึ้นก็ถูกจำเลยแทงอีกที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อมีดหักจำเลยยังใช้มีดส่วนที่เหลือแทงบริเวณหลังนางสาวคล้ายอีก ๓ ครั้ง ลักษณะของมีดตามภาพถ่ายที่พนักงานสอบสวนนำส่วนที่หักมาต่อกันทั้งด้ามและตัวมีดยาวถึง๙ นิ้ว เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้มีปลายแหลม ซึ่งสามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายถึงตายได้ เมื่อพิจารณาลักษณะอาการที่จำเลยแทงนางสาวคล้ายและบาดแผลบริเวณร่างกายของนางสาวคล้ายที่ถูกจำเลยแทงประกอบกับมีดของกลางดังกล่าวข้างต้น เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่านางสาวคล้ายตามคำรับสารภาพของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีเจตนาแทงทำร้ายร่างกายนางสาวคล้ายเพียงให้บาดเจ็บสาหัสไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
ส่วนฎีกาของจำเลยที่ฎีกาว่า คำฟ้องของโจทก์ในข้อหาพยายามฆ่าไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘(๕) เพราะผลการชันสูตรบาดแผลของนางสาวคล้ายที่แนบมาท้ายฟ้องโจทก์เป็นภาษาอังกฤษ จำเลยไม่เข้าใจนั้นเห็นว่า คำฟ้องของโจทก์บรรยายได้ความว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายนางสาวคล้ายหลายครั้งติด ๆ กัน ถูกบริเวณร่างกายหลายแห่งโดยเจตนาฆ่ารายละเอียดบาดแผลปรากฏตามรายงานผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องซึ่งเป็นคำฟ้องที่ชัดเจนบอกถึงการกระทำของจำเลยอย่างละเอียดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้ว เพราะรายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่เป็นส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่านางสาวคล้ายได้รับบาดแผลอย่างใดและภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณา ทั้งจำเลยได้ให้การรับสารภาพตามฟ้อง คำฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม
ที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำความผิดของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ศาลจะลงโทษจำเลยหลายกรรมไม่ถูกต้องนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนนางสาวคล้ายลากลงบันไดไป เมื่อนางสาวคล้ายขัดขืนและร้องให้คนช่วยเหลือ จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงนางสาวคล้าย ทั้งนี้ก็โดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่ เพื่อจะฆ่านางสาวคล้าย อันเป็นการปกปิดการกระทำผิดของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวนางสาวคล้ายไปเพื่อการอนาจาร การกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน หาใช่เป็นกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๔ กระทงหนึ่ง และตามมาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ อีกกระทงหนึ่ง