คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา148, 157 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 149 และมาตรา 157 แม้จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 149 ไม่ได้ เพราะฟ้องโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 149 ซึ่งเป็นบทเฉพาะมาด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปได้เพราะเป็นบทมาตราที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจให้ผู้เสียหายมอบเงินให้จำเลย อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘, ๑๕๗, ๘๓
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๘๓
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าการกระทำของจำเลยทั้งสามไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘ แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๙ และมาตรา ๑๕๗ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๔๙ ไม่ได้ เพราะฟ้องโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๔๙ ซึ่งเป็นบทเฉพาะมาด้วยแต่ปรากฏว่าฟ้องโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มาด้วย แสดงว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามมาตรานี้ กรณีเช่นนี้ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๕๗ ซึ่งเป็นบททั่วไปได้
พิพากษายืน

Share