คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเช่าแผงการค้าพิพาทจากโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา แม้จำเลยจะมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของโจทก์ก็ดี จำเลยลงชื่อยินยอมออกจากแผงพิพาทโดยความสำคัญผิดก็ดี ก็ไม่เป็นเหตุที่จะตัดสิทธิโจทก์ในอันที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยโจทก์ มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมายที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกจากแผงพิพาทที่เช่า โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๒ จำเลยทั้งสองสำนวนได้ทำหนังสือไว้ต่อโจทก์เพื่อทำการค้าบนแผงการค้าเป็นการชั่วคราว หากมีผู้ประมูลแผงดังกล่าวได้จำเลยทั้งสองยอมขนย้ายทรัพย์สินออกไปทันที ต่อมามีผู้ประมูลแผงดังกล่าวได้ โจทก์แจ้งให้จำเลยออกไปจากแผงนั้น จำเลยเพิกเฉย และก่อนฟ้องโจทก์ได้ให้ทนายมีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองออกจากแผงพิพาทแล้ว จำเลยก็เพิกเฉยอีก ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า จำเลยทำการค้าบนแผงที่โจทก์ฟ้องมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ การที่จำเลยทั้งสองยอมลงชื่อในหนังสือออกจากแผงการค้าตามที่โจทก์อ้างเป็นเพราะถูกข่มขู่ จึงเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากแผงการค้าพิพาท และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา
ในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยทั้งสองออกจากแผงการค้ารายพิพาทแล้ว จำเลยเพิกเฉย โจทก์จะมีอำนาจฟ้องขับไล่ และเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองเช่าแผงการค้ารายพิพาทจากโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา แม้จำเลยจะมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของโจทก์ก็ดี จำเลยลงชื่อยินยอมออกจากแผงการค้าโดยความสำคัญผิดก็ดี ก็ไม่เป็นเหตุที่จะตัดสิทธิโจทก์ในอันที่จะบอกกล่าวเลิกการเช่าแก่จำเลยแต่อย่างใด โจทก์มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมายที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจากแผงการค้าที่เช่า โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายได้
พิพากษายืน

Share