คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปี โจทก์ก็จะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้ เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้ และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๒๒ นายวิเชียรลูกจ้างของจำเลยได้ขับรถ ๑๐ ล้อ ของจำเลยโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยขับเร็วและกินทางเข้าไปเฉี่ยวชนรถยนต์โจทก์เสียหายขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยให้การว่าเหตุที่รถเกิดชนกันเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของฝ่ายโจทก์ จำเลยไม่ต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและวินิจฉัยว่า มูลละเมิดเกิดเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๒๒ แต่โจทก์ฟ้องคดีเรียกร้องค่าเสียหายในวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๒๔ เป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งปี โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายรู้ถึงมูลละเมิดเมื่อใดจึงต้องฟังว่าโจทก์รู้มูลละเมิดตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๒๒ คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์เพิ่งรู้ตัวผู้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๓ แต่มิได้บรรยายไว้ในคำฟ้องก็เพราะถือเป็นรายละเอียดที่โจทก์ต้องนำสืบในชั้นพิจารณาเพราะเรื่องอายุความหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่ต้องกล่าวในคำฟ้องว่าคดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปีโจทก์จึงจะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใด โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้ และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share