คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน แต่โดยที่ผู้เสียหายเกิดเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นด้วยกันในร้านที่จำเลยทำงานอยู่ จำเลยจึงทำไปโดยเจตนาจะระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในร้าน ทั้งขณะนั้นก็เป็นเวลาที่คู่วิวาททั้งหลายกำลังชุลมุนชกต่อยกันอยู่ พัลวัน มีการตีกันถึงศีรษะแตก จำเลยแทงไป 1 ทีในขณะฉุกละหุกโดยไม่ได้แทงซ้ำอีก บาดแผลของผู้เสียหายสามารถรักษาหายได้ใน 10 วัน ทั้งจำเลยยังได้พาผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บคนหนึ่งไปโรงพยาบาล แสดงว่าจำเลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าตนได้กระทำความผิดรุนแรงถึงกับฆ่าใคร ลักษณะและพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวไม่ถึงกับมีเจตนาฆ่า เป็นเพียงเจตนาทำร้ายร่างกายคู่วิวาทคนใดคนหนึ่งเพื่อระงับเหตุชุลมุนวิวาทกันในร้าน จำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโดยมีเจตนาฆ่าได้ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายที่หลังด้านซ้ายทะลุเข้าช่องปอด ผู้เสียหายได้รับการรักษาพยาบาลได้ทันท่วงที จึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเพียงทำร้ายร่างกายไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๕
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นคนแทงผู้เสียหายจริง และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยไม่ได้มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน แต่โดยที่ผู้เสียหายเกิดเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นด้วยกันในร้านที่จำเลยทำงานอยู่จำเลยจึงทำไปโดยเจตนาจะระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในร้านจำเลย ทั้งขณะนั้นก็เป็นเวลาที่คู่วิวาททั้งหลายกำลังชุลมุนชกต่อยกันอยู่พัลวันมีการตีกันถึงศีรษะแตก จำเลยแทงไป ๑ ทีในขณะฉุกละหุกเช่นนั้นโดยไม่ได้แทงซ้ำอีกบาดแผลของผู้เสียหายที่ปราฏตามคำให้การของนายแพทย์เศกสม สุวรรณกรก็ว่าสามารถรักษาหายได้ใน ๑๐ วัน ในคืนเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยก็ยังพานายศรีศักดิ์ซึ่งเป็นคนถูกทำร้ายบาดเจ็บในร้านจำเลยไปรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งแสดงว่าจำเลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าตนได้กระทำความผิดรุนแรงถึงกับฆ่าใครในวันนั้น จำเลยจึงกล้านำคนบาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าลักษณะและพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำไปนั้นไม่ถึงกับมีเจตนาฆ่า เป็นเพียงเจตนาทำร้ายร่างกายคู่วิวาทคนใดคนหนึ่งเพื่อจะระงับเหตุชุลมุนวิวาทกันในร้านจำเลยเท่านั้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๕

Share