คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยยืมเงินไปใช้ แต่ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยเป็นผู้ยืม จึงเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ซึ่งเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลาย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจะนำมาหักกลบลบหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 102 ประกอบด้วยมาตรา 94(1)

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดก ชำระเงินส่วนแบ่งมรดกที่จำเลยที่ ๑ มีสิทธิได้รับอีกจำนวนหนึ่ง ให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้น โดยที่จำเลยที่ ๑ ได้ยืมเงินจำนวนดังกล่าวจากกองมรดกไปใช้ เมื่อหักออกแล้ว คงเหลือเพียงจำนวนที่ผู้ร้องได้ชำระให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปแล้ว จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ชำระอีก ขอให้ยกคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงคัดค้านว่า ที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ ๑ เป็นหนี้กองมรดกโดยทำหลักฐานการรับส่วนแบ่งไปก่อนแล้วนั้นไม่เป็นความจริงเป็นหลักฐานที่สมยอมทำกันขึ้นโดยเจตนาลวง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ร้องชำระเงินแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามคำสั่ง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะค่าทนายความ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าเอกสารหมาย ร.๑ ที่ผู้ร้องนำมาอ้างเป็นเอกสารที่ทำขึ้นโดยเจตนาลวง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ เป็นหนี้กองมรดกตามเอกสารดังกล่าว แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ ๑ ยืมเงินจากกองมรดกไปใช้ก็ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ยืมแต่อย่างใด จึงเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๖๕๓ ซึ่งเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลาย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจะนำมาหักกลบลบหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ มาตรา ๑๐๒ ประกอบด้วยมาตรา ๙๔(๑) ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share