คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกไม่ทราบจำนวน ร่วมกันตั้งไม้ปิดกั้นแผงลอยเลขที่ ๑๔ ในตลาดหมอเพชรหมอพลอยซึ่งโจทก์เช่าจากจำเลยที่ ๑ ทำให้โจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองใช้แผงลอยนั้นเป็นที่ค้าขายตามสิทธิของโจทก์เป็นปกติ ทำให้โจทก์ขาดรายได้วันละ ๕๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒, ๓๖๕, ๓๕๘, ๘๓, ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒, ๓๖๕, ๓๕๘ ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๖๒, ๓๖๕, ปรับ ๑,๐๐๐ บาท ส่วนข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๖๒, ๓๖๕ นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ คดีนี้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยที่ ๑ รบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยที่ ๑ รบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยที่ ๑ จะกระทำการนั้นจริง ก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามมาตรา ๓๖๒, ๓๖๕ ลงโทษจำเลยที่ ๑ ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ในข้อหาฐานบุกรุกด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share