แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 มาตรา 14 หาได้บัญญัติว่า ผู้ที่จะมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ เมื่อจำเลยซึ่งจดทะเบียนการค้าเป็นผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าจากการประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรดังกล่าวเท็จ โดยแสดงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงเห็นได้ว่าเพื่อให้มีการเสียภาษีต่ำกว่าที่ต้องเสียและได้เสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าขาดไปเพราะการแสดงรายการเป็นเท็จนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าโดยความเท็จและโดยฉ้อโกง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการค้าโรงเลื่อยจักร ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้และภาษีการค้า ตามประมวลรัษฎากร จำเลยบังอาจยื่นแบบแสดงรายการเพื่อชำระภาษีการค้าและภาษีเงินได้เป็นเท็จ โดยยื่นแบบประเมินภาษีเงินได้และภาษีการค้าน้อยกว่าความเป็นจริงโดยเจตนาฉ้อโกงภาษีอากรของรัฐเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๘,๑๒๑,๙๘๙.๑๕ บาท เหตุเกิดที่ตำบลบ่อ ตำบลขลุง เกี่ยวพันกัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๙,๓๗,๕๖,๘๔,๘๘,๘๙ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๔ ขอให้จำเลยคืนหรือใช้เงินค่าภาษีดังกล่าวแก่รัฐหรือกรมสรรพากร
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๗ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๔ จำคุก ๒ ปี คำขออื่นให้ยก
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า จำเลยไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ภาษีการค้า จึงไม่มีความผิดเมื่อมีการ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๗ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๔ บัญญัติว่า “ผู้ใด (๑) ฯลฯ หรือ (๒) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกันหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ต้องระวางโทษ ฯลฯ” หาได้บัญญัติว่าผู้ที่จะมีความผิดตามบทบัญญัตินี้ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ กรณีคดีนี้ผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรสรรวานิชจะเป็นจำเลยหรือนายเจริญหรือเกฮวดก็ต้องเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้า แต่จำเลยจดทะเบียนการค้าเป็นผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรสรรวานิช การยื่นแบบแสดงรายกายเพื่อเสียภาษีเงินได้ภาษีการค้าจากการประกอบกิจการโรงเลื่อยดังกล่าวและการชำระภาษีจึงได้กระทำในนามจำเลย เมื่อจำเลยยื่นแบบแสดงรายการตามเอกสารหมาย จ.๕ จ.๖ เป็นเท็จ โดยแสดงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง เห็นได้ว่าเพื่อให้มีการเสียภาษีต่ำกว่าที่ต้องเสีย และได้เสียภาษีเงินได้ภาษีการค้าขาดไปเพราะการแสดงรายการเป็นเท็จนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าโดยความเท็จและโดยฉ้อโกงตามบทบัญญัติดังกล่าว
พิพากษายืน.