แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกู้เงินไปจากโจทก์โดยได้ทำสัญญากู้ไว้เป็นหลักฐาน ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันซื้อช้างเพื่อขาย โดยทำสัญญากูกันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการคืนหุ้นและกำไร ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องส่วนข้อที่ว่าช้างที่เข้าหุ้นส่วนกันซื้อมาถูกคนร้ายลักเอาไปจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไร โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยเพียงใดหรือไม่ เป็นกรณีที่จะต้องว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมจำเลยกู้เงินจากโจทก์ ๒๑,๐๐๐ บาท เพื่อซื้อช้างหนึ่งเชือก จำเลยรับเงินไปครบถ้วนแล้ว ครั้นวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๑๙ จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เท่ากับจำนวนเงินที่กู้ไป กำหนดใช้หนี้ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๑๙ เมื่อถึงกำหนดชำระเงินจำเลยขอผัดไปอีก ๓ – ๔ วัน เมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระหนี้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันซื้อช้างหนึ่งเชือกราคา ๖๕,๐๐๐ บาท เพื่อไว้ขายเอากำไรแบ่งกันตามส่วน โจทก์ลงหุ้นเป็นเงิน ๑๙,๐๐๐ บาท จำเลยลงหุ้นเป็นเงิน ๔๖,๐๐๐ บาท และจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก ๑,๙๐๐ บาท รวม ๔๗,๙๐๐ บาท ต่อมาจำเลยติดต่อขายช้างได้ราคา ๗๐,๐๐๐ บาท มีกำไร ๕,๐๐๐ บาท โจทก์ขอแบ่งกำไรเป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท จำเลยตกลงให้ โจทก์เกรงว่าจำเลยจะไม่มอบเงินลงทุนกับกำไรให้ จึงให้จำเลยทำสัญญากู้เป็นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท สัญญากู้นั้นไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย เมื่อถึงกำหนดชำระเงินค่าช้างผู้ซื้อไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ ต่อมาช้างถูกคนร้ายลักไป ติดตามแล้วยังไม่ได้คืน จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นเรื่องการกู้เงิน พิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าเป็นเรื่องเข้าหุ้นส่วนกันซื้อช้าง ไม่ใช่เป็นการกู้ยืม จำเลยทำสัญญากู้ให้เนื่องจากจำเลยจะชำระเงินค่าหุ้นกับกำไรให้แก่โจทก์ เมื่อช้างถูกลักไปจำเลยไม่ต้องรับผิดชำระเงินค่าหุ้นกับกำไรให้แก่โจทก์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนซื้อช้างเพื่อขายแล้วทำสัญญากู้กันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการคืนหุ้นและกำไร มิใช่โจทก์ให้จำเลยกู้เงินดังฟ้อง จึงไม่วินิจฉัยในข้อฎีกาเรื่องอื่น ๆ ของโจทก์ต่อไป ส่วนข้อที่ว่าเมื่อช้างที่เข้าหุ้นส่วนกันซื้อมาถูกคนร้ายลักเอาไปจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไร โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยเพียงใดหรือไม่ เป็นกรณีที่จะต้องว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่ง
พิพากษายืน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ตามมูลหนี้ที่กล่าวภายในกำหนดอายุความ