คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2442/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บัญชีทรัพย์ที่ผู้จัดการมรดกยื่นต่อศาลขณะร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ใช่บัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้จัดการจะต้องลงมือจัดทำให้แล้วเสร็จภายหลังที่ได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1728, 1729
เมื่อทรัพย์มรดกที่อยู่ในความครอบครองของ ส.ผู้จัดการมรดกมีเพียงสิทธิในการเช่าที่ดิน 1 แปลงกับบ้านไม้ที่ได้ปลูกอยู่ในที่ดินเท่านั้น ซึ่ง ส.ผู้จัดการมรดกก็ได้เคยยื่นบัญชีทรัพย์แสดงต่อศาลไว้ขณะยื่นคำร้องขอครั้งหนึ่งแล้ว มิได้ปิดบังทรัพย์มรดกแต่อย่างไดแสดงว่ามิได้เพิกเฉยในหน้าที่ผู้จัดการมรดกประกอบมีพฤติการณ์อื่นจึงไม่สมควรถอน ส.จากเป็นผู้จัดการมรดก

ย่อยาว

คดีนี้เดิมศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๑๙ ตั้งนางสาวสมศรี เป็นผู้จัดการมรดกไม่มีพินัยกรรมของนางฉวีผู้เป็นมารดก
ต่อมาวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๑๙ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่านางสาวสมศณีมิได้เริ่มทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดสิบห้าวันนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกมิได้ทำบัญชีทรัยพ์มรดกให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือนโดยมิได้ขอยืดเวลาต่อศาลในการยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกก็แสดงเจตนาไม่สุจริต ปกปิดความจริง ไม่ระบุร้อยตำรวจโทสมบัติว่าเป็นทายาท ไม่แบ่งเงินค่าเช่าที่เก็บได้แก่ทายาท ผู้ร้องจ่ายเงินทดรองค่าทำศพไป ก็ไม่ชำระให้ ไม่ยอมให้ผู้ร้องมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินของวันโสมนัส เพื่อจะปกปิดเรื่องโอนสิทธิการเช่าและเงินค่าตอบแทน ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกแทน
ผู้คัดค้านและผู้จัดการมรดกคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ยังไม่มีเหตุสมควรถอนผู้จัดการมรดก และตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแทน มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บัญชีทรัพย์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลขณะร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ใช่บัญชีทรัยพ์มรดกที่ผู้จัดการมรดกจะต้องลงมือจัดทำให้แล้วเสร็จภายหลัวที่ได้รับเนห้าที่เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๒๘, ๑๗๒๙
ทรัพย์มรดกที่อยู่ในความครอบครองของผู้จัดการมรดกมีเพียงสิทธิในการเช่าที่ดินวันโสมนัส ๑ แปลง กับบ้านไม้ที่ปลูกอยู่ในที่ดินเท่านั้นซึ่งผู้จัดการมรดกก็ได้เคยยื่นบัญชีทรัยพ์แสดงต่อศาลไว้ในขณะยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว มิได้ปิดบังทรัพย์มรดกแต่อย่างใด เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้จัดการมรดกได้ทำบัญชีรับจ่ายทรัพย์มรดกเป็นรายเดือนตลอดมาเพียงแต่ยังไม่ได้ยื่นบัญชีไว้ต่อศาลอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่เข้าใจกฎหมายดังผู้จัดการมรดกเบิกความ ส่วนทรัพย์มรดกอื่น ๆ ผู้จัดการมรดกได้มีหนังสือเรียกให้ผู้ร้องซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกนั้นส่งคืนเพื่อรวบรวมทรัพย์ในกองมรดก แต่ผู้ร้องก็ยังไม่ส่งคืนให้ แสดงว่ามิได้เพิกเฉยในหน้าที่ผู้จัดการมรดก ส่วนข้อที่ว่าผู้จัดการมรดกปิดบังทายาท ไม่ระบุในบัญชีทายาทขณะยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าร้อยตำรวจโทสมบัติเป็นทายาทด้วยแสดงเจตนาไม่บริสุทธินั้น ผู้ร้องและร้อยตำรวจโทสมบัติเบิกความกล่าวอ้างลอย ๆ มิได้มีสูติบัตรหรือหลักฐานใดมาแสดงให้เห็นว่าร้อยตำรวจโทสมบัติเป็นบุตรของนางฉวีเจ้ามรดกร้อยตำรวจโทสมบัติไปอยู่กับบุคคลอื่นตั้งแต่เด็กและใช้นามสกุล ชัยนพงศ์ แม้แต่ในคำร้องขอผู้ร้อยก็ยังระบุว่าร้อยตำรวจโทสมบัติมีนามสกุลว่า ชัปนพงศ์ จึงเป็นเหตุให้ผู้จัดการมรดกเข้าใจว่าไม่ใช่ทายาทได้ ไม่เป็นข้อน่าสงสัยว่าผู้จัดการมรดกจะไม่สุจริตหรือไม่สามารถทำหน้าที่ผู้จัดการมรดก ตามพฤติการณ์เท่าที่ปรากฏดังกล่าว ยังไม่สมควรถอนนางสาวสมศรีจากเป็นผู้จัดการมรดก ฯลฯ
พิพากษายืน.

Share