คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3710/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินจากตารางวาละ 8,000 บาท เป็นตารางวาละ 16,000 บาท โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินจากตารางวาละ 8,000 บาท เป็นตารางวาละ 12,000 บาท โจทก์ก็ชอบที่จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาเพิ่มเงินทดแทนจากตารางวาละ 12,000 บาท เป็นตารางวาละ 16,000 บาทเท่านั้น จะขอแก้ทุนทรัพย์ชั้นฎีกาให้เพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินเป็นตารางวาละ 24,000 บาทไม่ได้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้แก้ ให้ยกคำร้องขอ ดังนี้โจทก์จึงฎีกาขอให้ศาลฎีกาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินจากตารางวาละ 8,000 บาท เป็นตารางวาละ 24,000 บาท ไม่ได้ด้วย
โจทก์มิได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเวนคืนหรือจัดซื้อที่ดินส่วนที่เหลือจากการเวนคืน ตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขอให้เพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินที่ถูกเวนคืนและขอให้ซื้อที่ดินส่วนที่เหลือจากการเวนคืนนั้น เป็นการอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีฯ ตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกับการขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืน เวนคืนหรือจัดซื้อที่ดินที่เหลือจากการเวนคืนตามมาตรา 20 เมื่อโจทก์ยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายจึงยังไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยทั้งสองจ่ายเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือจากการเวนคืน
อนึ่งการยกฟ้องโจทก์ในส่วนนี้เป็นการยกฟ้องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงเห็นสมควรไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วนำคดีในส่วนนี้มาฟ้องใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๕๔๖๘ เพิ่มขึ้นอีก ๑๕,๒๔๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย ๑,๙๑๘,๖๖๖.๗๕ บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ เพิ่มขึ้นอีก ๒,๖๕๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย ๓๓๘,๗๓๘.๒๑ บาท ให้จำเลยทั้งสองซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ส่วนที่เหลือจากการเวนคืนจำนวน ๙.๒ ตารางวา ในอัตราตารางวาละ ๔๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๓๖๘,๐๐๐ บาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสื่อมราคาของที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๕๔๖๘ เป็นเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินของต้นเงิน ๒๐,๒๗๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การ……ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๙,๑๓๓,๖๐๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๓๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ ดอกเบี้ยต้องไม่เกินร้อยละ ๘.๕ ต่อปี ตามที่โจทก์ขอมา จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๗,๓๗๕,๖๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดขึ้นลงของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๓๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยต้องไม่เกินร้อยละ ๘.๕ ต่อปี ตามที่โจทก์ขอมา
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขทุนทรัพย์ชั้นฎีกาได้หรือไม่ ปัญหานี้ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ จากตารางวาละ ๘,๐๐๐ บาท เป็นตารางวาละ ๑๖,๐๐๐ บาท โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ จากตารางวาละ ๘,๐๐๐ บาท เป็นตารางวาละ ๑๒,๐๐๐ บาทโจทก์ก็ชอบที่จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ จากตารางวาละ ๑๒,๐๐๐ บาท เป็นตารางวาละ ๑๖,๐๐๐ บาท เท่านั้น จะขอแก้ทุนทรัพย์ชั้นฎีกาให้เพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ เป็นตารางวาละ ๒๔,๐๐๐ บาท ซึ่งเกินกว่าเงินค่าทดแทนที่ดินที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แก่โจทก์และโจทก์พอใจแล้วนั้นไม่ได้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้แก้ ให้ยกคำร้องขอ ดังนี้โจทก์จึงฎีกาขอให้ศาลฎีกาเพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินจากตารางวาละ ๘,๐๐๐ บาท เป็นตารางวาละ ๒๔,๐๐๐ บาทไม่ได้ด้วย แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากฎีกาของโจทก์และคำแก้ฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้วินิจฉัยให้โจทก์ได้รับเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ จากตารางวาละ ๘,๐๐๐ บาท เป็นตารางวาละ ๒๔,๐๐๐ บาท โจทก์จึงมีสิทธิที่จะไปรับเงินค่าทดแทนที่ดินที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้จากฝ่ายจำเลยซึ่งมากกว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แก่โจทก์ และโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้ง ถือได้ว่าโจทก์พอใจคำวินิจฉัยส่วนนี้ของรัฐมนตรีฯแล้ว ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ตามฟ้องของโจทก์จึงหมดสิ้นไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาส่วนนี้ของจำเลยทั้งสองด้วย
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์และฎีกาของจำเลยทั้งสองประการสุดท้ายว่า จำเลยทั้งสองจะต้องซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ในส่วนที่เหลือจากการเวนคืนหรือไม่ในราคาเท่าใด โจทก์เบิกความว่า โจทก์เคยขายที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ในส่วนที่เหลือจากการเวนคืนให้แก่จำเลยในตอนที่ไปรับเงินค่าทดแทนที่ดิน เจ้าหน้าที่ของจำเลยแจ้งให้รับเงินค่าทดแทนที่ดินไปก่อน โจทก์จึงไม่ทราบว่าจำเลยจะซื้อที่ดินส่วนที่เหลือจากโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามคำเบิกความของโจทก์ดังกล่าวยังไม่ได้ความชัดเจนพอที่จะให้รับฟังได้ว่าโจทก์ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเวนคืนหรือจัดซื้อทีดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ส่วนที่เหลือจากการเวนคืน ตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ส่วนที่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขอให้เพิ่มเงินค่าทดแทนที่ดินที่ถูกเวนคืนและขอให้ซื้อที่ดินส่วนที่เหลือจากการเวนคืนนั้น เป็นการอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีฯตามมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกับการขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเวนคืนหรือจัดซื้อที่ดินที่เหลือจากการเวนคืนตามมาตรา ๒๐ เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว จึงยังไม่มีสิทธิฟ้องให้บังคับจำเลยทั้งสองจ่ายเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือจากการเวนคืนนี้ ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังขึ้น อนึ่ง การยกฟ้องโจทก์ในส่วนนี้เป็นการยกฟ้องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงเห็นสมควรไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วนำคดีในส่วนนี้มาฟ้องใหม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๕๔๖๘ เพิ่มขึ้นจากที่รัฐมนตรีฯวินิจฉัยอีก ๑,๓๘๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน แต่ต้องไม่เกินร้อยละ ๘.๕ ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๓๙ เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และในส่วนที่ฟ้องเรียกเงินค่าทดแทนที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ เพิ่มขึ้นนั้นให้ยกฟ้องโจทก์ ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง และยกฎีกาโจทก์และยกฎีกาจำเลยทั้งสองในส่วนดังกล่าวเสียด้วย และยกฟ้องโจทก์ที่ขอให้จำเลยทั้งสองซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๒๑๔๓ ส่วนที่เหลือจากการเวนคืน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคำฟ้องในส่วนนี้มายื่นใหม่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐
นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

นายสุพจน์ แสงประชากุล ผู้ช่วยฯ
ร.ท.นิตินาถ บุญมา ย่อ
นายไพโรจน์ โรจน์อภิรักษ์กุล ตรวจ
นายวีระวัฒน์ ปวราจารย์ ผู้ช่วยฯ/ตรวจ

Share