แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา แต่ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาคำร้องของจำเลยดังกล่าวแก่โจทก์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 223 ทวิ เพื่อให้โจทก์มีโอกาสคัดค้าน เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 27 ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่น หรือการส่งคำคู่ความ หรือเอกสารอื่น ๆ ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๓๔ จำเลยโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำผิดกฎหมาย กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายข้อความฝ่าฝืนต่อความจริง ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓,๐๐๐ บาท แก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในปัญหาข้อกฎหมายต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา แต่ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาคำร้องของจำเลยดังกล่าวแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ เพื่อให้โจทก์มีโอกาสคัดค้าน เป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๗ ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่นหรือการส่งคำคู่ความ หรือเอกสารอื่น ๆ ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องก่อน
พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการเรื่องการส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์ แล้วดำเนินกระบวน-พิจารณาต่อไปตามรูปคดี.