คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสภาพของหลุมฝังศพย่อมก่อให้เกิดความหวาดกลัวในเรื่องภูติผีวิญญาน และเป็นที่รังเกียจแก่ผู้ที่มิใช่ญาติผู้ตายซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ใกล้หลุมฝังศพการที่จำเลยที่ 1 สร้างหลุมฝังศพหรือฮวงซุ้ยเพื่อเก็บศพของ ส.สามีจำเลยที่ 1ในที่ดินของตนเองห่างจากบ้านของโจทก์ทั้งสองประมาณ 10 เมตร โดยที่ดินของโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 เป็นที่อยู่อาศัย ไม่เคยมีหลุมฝังศพมาก่อนและไม่ปรากฎว่าบริเวณใกล้เคียงมีหลุมฝังศพแต่อย่างใด ทั้งตามประเพณีแห่งท้องถิ่นก็ไม่นิยมให้มีการฝังศพในเขตหมู่บ้าน ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337
พ.ร.บ. สุสานและฌาปนสถาน พ.ศ.2528 มาตรา 10 เป็นบทบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดฝังศพไว้ในสถานที่อื่นนอกจากสุสานสาธารณะหรือสุสานเอกชนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากฝ่าฝืนจะต้องมีความผิด การที่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ฝังศพตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าจำเลยที่ 1 มิได้ตกเป็นผู้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถานฯเท่านั้น หามีผลทำให้จำเลยที่ 1 มีอำนาจกระทำการใด ๆ ให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายไม่
มาตรา 10 และ 25 แห่ง พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถานดังกล่าวมิได้กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องออกคำสั่งให้ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 10รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือเคลื่อนย้ายศพที่ฝังไว้ออกไป คงให้อำนาจแก่เจ้าพนักงาน-ท้องถิ่นที่จะใช้ดุลพินิจสั่งให้ดำเนินการดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ แม้ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 ถูกลงโทษฐานกระทำความผิดตามมาตรา 10 แล้ว และได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ฝังศพไว้ที่เดิมต่อไปก็ตาม แต่ปรากฎว่านายอำเภอจำเลยที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ใช้ดุลพินิจอนุญาตโดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนและอาศัยข้อมูลความเห็นที่สอดคล้องต้องกันของผู้ที่เกี่ยวข้องตามสมควรแล้ว ดังนี้การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง

Share