คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4041/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่าการนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกโดยปิดประกาศหน้าศาลให้จำเลยทราบเป็นการชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 79 หรือไม่ เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องภายในกำหนด 5 วัน หากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ และกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2539 แต่ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไม่ได้ เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยโดยวิธีธรรมดาไม่สามารถที่จะทำได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานศาลส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและแจ้งกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบโดยวิธีอื่นโดยการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ สถานที่ทำการอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยในวันที่ 19 กรกฎาคม 2539 จึงเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79 วรรคแรก แล้ว ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2539 ศาลชั้นต้นได้ไต่สวนเรื่องการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและฟังได้ว่ามีการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วจริง การที่ศาลชั้นต้นให้เลื่อนไปนัดสืบพยานนัดแรกในวันที่ 11 กันยายน 2539 และศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดให้จำเลยทราบโดยวิธีประกาศหน้าศาล ศาลชั้นต้นให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องส่งโดยวิธีการปิดหมาย การดำเนินการประกาศหน้าศาลจึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79 มีผลเช่นเดียวกับการปิดหมาย การนัดสืบพยานนัดแรกโดยประกาศหน้าศาลจึงชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑๓๔,๘๗๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๑๓๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสองไม่ชำระ โจทก์จึงยื่นคำแถลงขอให้ศาลออกคำบังคับ ศาลชั้นต้นจึงออกคำบังคับส่งให้จำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะไม่ได้รับหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์เป็นฝ่ายผิดข้อตกลง เช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ ขอให้พิจารณาใหม่
โจทก์คัดค้านว่า ภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสองตามฟ้องตรงกับหนังสือรับรองของจำเลยที่ ๑ พนักงานเดินหมายปิดหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทั้งสองทราบโดยชอบแล้ว จำเลยทั้งสองขอพิจารณาใหม่ด้วยเจตนาประวิงคดีไม่ชำระหนี้ เช็คพิพาทมีมูลหนี้ต่อกันจริง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นได้สั่งในคำฟ้องของโจทก์เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ว่า ให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องภายในกำหนด ๕ วัน หากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ และนัดสืบพยานโจทก์วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ปรากฏต่อมาตามรายงานการเดินหมายเอกสารหมาย ร. ๑ ว่า ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องใหม่ หากไม่พบหรือไม่มีผู้รับแทนโดยชอบให้ปิดหมาย ซึ่งมีการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้โดยชอบแล้วเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ตามรายงานการเดินหมายเอกสารหมาย ร. ๓
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่า การนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ ๑๑ กันยายน โดยประกาศหน้าศาลเป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ หรือไม่ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งจำเลยได้ยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยเรื่องนี้ ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยให้ และเห็นว่า เมื่อมีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาไม่ได้ตามรายงานการเดินหมายเอกสารหมาย ร. ๑ แล้ว ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ส่งโดยวิธีปิดหมาย เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลย ทั้งสองโดยวิธีธรรมดาไม่สามารถที่จะทำได้ จึงมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานศาลส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีอื่นแทนโดยการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ สถานที่ทำการอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสอง เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ วรรคแรก ดังนั้น เมื่อมีการนัดสืบพยานนัดแรกในวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๓๙ ศาลจึงมีคำสั่งให้ประกาศหน้าศาล โดยให้เหตุผลว่า เพราะการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องส่งโดยวิธีการปิดหมาย การดำเนินการดังกล่าวเป็นอีกวิธีการหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ มีผลเช่นเดียวกับการปิดหมาย การนัดสืบพยานนัดแรกโดยประกาศหน้าศาลจึงชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน.

Share