แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อความผิดครั้งก่อนที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วทั้งสองครั้งไม่ใช่หตุร้าย แม้ครั้งหลังนี้ จำเลยได้ทำผิดฐานลักทรัพย์ โดยล้วงกระเป๋าซึ่งเป็นเหตุร้ายก็ตาม ศาลอาจพิเคราะห์ความผิดครั้งก่อนและเหตุผลเฉพาะคดีหลังนี้มาวินิจฉัยว่า จำเลยยังไม่มีสันดานเป็นผู้ร้าย และไม่ลงโทษกักกัน
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยเคยต้องโทษจำคุกครั้งแรกฐานปลอมหนังสือ ครั้งหลังฐานหนีราชการทหาร แล้วได้มาทำผิดคดีนี้ฐานลักทรัพย์ โดยล้วงกระเป๋าลักธนบัตรของ ป.ไป ๑๔ บาท ๕๐ สตางค์ ศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย ๒ ปี โดยเพิ่มโทษและลดแล้ว กับให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด ๓ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่จำเลยเคยรับโทษจำคุกฐานดังกล่าวสองครั้ง แล้วมาทำผิดฐานนี้ อาจถือว่าเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายได้ แต่เห็นว่า ความผิดครั้งก่อน ๆ ของจำเลยไม่อยู่ในลักษณะอันเป็นเหตุร้าย และโดยเหตุผลเฉพาะคดีของจำเลยนี้ยังไม่ควรถือว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย พิพากษาแก้ไม่ลงโทษกักกัน ส่วนอื่นคงยืน
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยล้วงกระเป๋าในที่ชุมนุมชนบนรถราง เป็นการอุกอาจขอให้กักกัน
ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน