คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถูกผู้ตายเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะอยู่ในที่มืดเมื่อจำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายครั้งที่หนึ่งแล้ว ไม่ปรากฎว่าผู้ตายได้กระทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันครั้งที่สองอีกจนผู้ตายถึงตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ต้องมีผิดตามมาตรา 251,53 ก.ม.ลักษณะอาญา.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่านายเขียนตายโดยเจตนา จำเลยต่อสู้ว่าทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นฟังว่า นายเขียนผู้ตายเมาสุราถือมีดและเอามือค้ำคอจำเลยโดยไม่ทราบว่าเป็นใคร จำเลยจึงได้ฟันนายเขียนเป็นการป้องแัน พอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ให้จำคุก ๕ ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยถูกนายเขียนเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใคร เมื่อจำเลยใช้ขวานฟันนายเขียนครั้งที่หนึ่งแล้วไม่ปรากฎว่านายเขียนได้ทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันนายเขียนครั้งที่ ๒ อีกจนนายเขียนถึงตาย การกระทำของจำเลย จึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ตามมาตรา ๒๕๑ ประกอบด้วย มาตรา ๕๓ จำคุก ๑ ปีแต่ให้รอการลงอาญาไว้

Share