คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกะทง ขอให้ลงโทษตามมาตรา 116,119,120,154, 338(3) จำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 116,119,120, 338(3) แต่ให้ลงโทษตามบทหนักตามมาตรา 120 ส่วนข้อหาตามมาตรา 154 เห็นว่าการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 154 จึงให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้จำเลยจะมีผิดตามมาตรา 154 ด้วยก็ดี ก็เป็นความผิดหลายบท ศาลล่างลงโทษจำเลยตามมาตรา 120 อันเป็นบทหนักแล้ว ไม่จำต้องพิเคราะห์ถึงความผิดตามมาตรา 154 อีก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกะทง คือ ก. ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้พ้นอาญา ข. หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษ ชั้นต้นจำเลยปฏิเสธ ต่อมาจำเลยขอถอนคำให้การใหม่ว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องทุกประการ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๖,๑๑๙,๑๒๐ และ ๓๓๘ ให้ลงโทษกะทงหนักตามมาตรา ๑๒๐ จำคุกคนะล ๓ เดือน ปรับคนละ ๓๐ บาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ ข้อหาตามมาตรา ๑๕๔ นั้น ตามคำฟ้องของโจทก์การกระทำของจำเลยยังไม่มีผิดให้ยกขำขอข้อนี้เสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องข้อ ก.ของโจทก์ แม้จำเลยมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้หลบหลีกไม่ถูกจับกุมตามมาตรา ๑๕๔ ด้วยก็ดี ก็เป็นความผิดต้องด้วยกฎหมายหลายบท ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๒๐ อันเป็นบทหนักตามมาตรา ๗๐ แล้ว ไม่จำต้องพิเคราะห์ถึงความผิดตามมาตรา ๑๕๔
พิพากษายืน

Share