แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำสัญญาเช่ามีกำหนด 3 ปี และมีข้อสัญญาระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดแห่งการเช่าไว้ตามวันแห่งปฏิทิน กับมีข้อสัญญาด้วยว่าผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุก ๆ ปี เท่านี้ก็พอถือได้แล้วว่าได้มีการกำหนดวันชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าให้ภายในวันที่ซึ่งเป็นวันครบรอบปีตามสัญญาผู้เช่าก็ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เช่าโรงภาพยนต์ “ศรีพรหมราช” และเครื่องอุปกรณ์จากโจทก์ ๓ ปี จำเลยค้างค่าเช่าโรงกับอุปกรณ์เป็นเงิน ๑๒,๐๐๐ บาท และค่าเครื่องอุปกรณ์ จำเลยทำชำรุดขาดหายอีก ๙,๒๕๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระรวมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยรับว่าค้างค่าเช่าจริงแต่โจทก์ไม่ได้เตือนก่อน และต่อสู้ประการอื่น ๆ แต่ในวันชี้สองสถานจำเลยรับข้ออื่น ๆ ด้วยคงต่อสู้เฉพาะว่าโจทก์จะต้องเตือนให้ชำระหนี้ก่อน คู่ความไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเช่าและค่าเครื่องอุปกรณ์พร้อมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงิน ๒๒,๓๖๙.๖๗ บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้จำเลยฎีกาเฉพาะเรื่องค่าเช่าว่าโจทก์ไม่ได้เตือนให้จำเลยชำระหนี้ก่อนจึงไม่มีสิทธิฟ้อง คดีปรากฎตามสัญญาเช่าว่ามีข้อสัญญาระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดแห่งสัญญาตามวันปฏิทิน และมีข้อสัญญาว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าทุกปี ล่วงหน้า จึงพอถือได้ว่าได้มีกำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทินแล้วตาม ป.พ.พ.ม.๒๐๔ วรรค ๒ ลูกหนี้จึงตกเป็นผู้ผิดนัด โดยมิพักต้องเตือนเลย ศาลฎีกาพิพากษายืน