คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าซื้อรถยนต์แล้วถูกเกนฑ์รถไปไช้ราชการทหานโดยไม่มีกำหนดจะส่งคืนเมื่อได เมื่อผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาแล้ว คู่กรนีก็ต้องกลับคืนถานะเดิม ผู้ไห้เช่าจะริบเงินที่ผู้เช่าซื้อชำระไว้ไนวันทำสัญญาไม่ได้
เงินที่ผู้เช่าซื้อชำระไนวันทำสัญญานั้น ไม่ไช่เปนค่าเช่าหย่างเดียวและถ้าผู้ไห้เช่าไม่นำสืบถึงค่าแห่งการไช้รถของผู้เช่าซื้อแล้ว ก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนนั้น

ย่อยาว

โจททำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยคันหนึ่ง ๔๐๐๐ บาท ชำระเงินไห้แก่จำเลยไนวันทำสัญญา ๑๕๐๐ บาท และจะชำระต่อไปอีกเดือนละ ๒๕๐ บาท โจทได้ส่งมอบรถยนต์ไห้จำเลยแล้ว และจำเลยชำระค่าเช่าซื้อไห้ ๒๕๐ บาท แล้วรถรายนี้ถูกเกนฑ์ไปไช้ราชการทหานโจทจึงฟ้องเรียกเงิน ๑๕๐๐ บาทคืนจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ต้องคืน และ ว่าทางราชการเกนฑ์รถไปไช้ชั่วคราว
สาลแพ่งพิพากสาว่า โจทได้ชำระเงิน ๑๕๐๐ บาท ไห้จำเลยแล้ว และได้รับประโยชน์จากการไช้รถบ้างแล้ว โจทไม่มีสิทธิเรียกเงินคืน ไห้ยกฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า เงินที่โจทส่งแก่จำเลยมีสิทธิริบได้ ฉะเพาะกรณีที่โจทผิดสัญญาเท่านั้น สัญญาเช่าซื้อเปนสัญญาต่างตอบแทน ตามนัยแห่งมาตรา ๓๖๙ เมื่อโจทไม่ได้รับชำระหนี้ตอบแทน ก็ไม่มีหน้าที่ชำระหนี้ค่าเช่าซื้อต่อไป และโจทบอกเลิกสัญญาแล้วตามมาตรา ๓๙๑ คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ถานะเดิม สัญญาเช่าซื้อไม่ไช่สัญญาเช่าธัมดา และเงิน ๑๕๐๐ บาท ไม่ไช่ค่าเช่ารถหรือค่าตอบแทนเพื่อไช้รถแต่หย่างเดียว การที่รถสึกหรอเพราะการไช้ จำเลยก็ได้รับค่าเช่าไป ๒๕๐ บาท เงินนี้จะคุ้มหรือไม่จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ ส่วนการที่ทางราชการเกนฑ์รถไปไช้ชั่วคราวก็มีกำหนดเมื่อไร โจทจึงไม่ได้รับชำระหนี้ตอบแทน ตามสัญญาไม่ จึงพิพากสาไห้จำเลยคืนเงิน ๑๕๐๐ บาทไห้โจท

Share