คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จนั้น ต้องได้ความว่า จำเลยได้ชิงแต่ทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปด้วย
จำเลยได้ร้อง “อ้ายเสือเอา” และพังประตูเรือนเจ้าทรัพย์เข้ามา ทั้งเอาปืนยิงด้วย แต่ไม่ปรากฏว่าเอาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปด้วย จำเลยมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนนี้เป็นกรณีเดียวกัน แต่ฟ้องคนละคราว ศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษารวมกันมา ได้ความว่าได้มีคนร้ายราว ๑๐ คนทำการปล้นทรัพย์ที่เรือนนายก๊อก คนร้ายได้ร้องว่ อ้ายเสือเอาวา และกรูขึ้นบนเรือน พังประตูโครมคราม นายก๊อดได้ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย แล้วผู้ร้ายล่าถอยไป ปรากฏว่าเสื้อเชิ๊ต ๑ ตัว ราคา ๔๐ บาท ของนายก๊อดที่ตากไว้ที่ราวหายไป จำเลยถูกฟ้องหาว่าเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์รายนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นลงโทษนายเล็ก นายหนอม นายหยด นายอั้น นายแสวง จำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑ และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคา ๔๐ บาทแก่เจ้าทรัพย์ และยกฟ้องนายเชื้อจำเลย
จำเลยที่ต้องโทษอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ยังฟังไม่ถนัดว่าคนร้ายที่ปล้นเอาเสื้อเชิ๊ตที่ตากไว้ไป เพราะเสื้อนั้นอาจหายไปก่อนได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑, ๖๐ นอกนั้นยืนตาม
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จนั้น จะต้องได้ความว่า จำเลยได้ชิงเอาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปด้วย แต่คดีนี้พยานหลักฐานโจทก์ไม่ชัดพอที่จะฟังว่า จำเลยหรือพวกของจำเลยเอาเสื้อเชิ๊ตของเจ้าทรัพย์ไป
พิพากษายืน

Share